Open Ship API

API นี้ช่วยให้คุณสามารถสร้างการจัดส่งพัสดุที่เปิดอยู่และช่วยให้สามารถเพิ่มพัสดุไปที่การจัดส่งได้ตามเวลาช่วงหนึ่งแทนที่จะส่งพัสดุและข้อมูลพัสดุทั้งหมดในครั้งเดียว การจัดส่งจะยังคงเปิดรับอยู่เป็นเวลาห้าวัน และจะยอมรับการเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงพัสดุภัณฑ์เพิ่มเติมในช่วงเวลาดังกล่าว เมื่อยืนยันพัสดุแล้วก็สามารถสร้างเอกสารการส่งอย่างฉลาก AWB หรือรายงาน และเมื่อสิ้นสุดวันที่ห้า การจัดส่งจะต้องได้รับการยืนยัน หรือมิฉะนั้นจะถูกล้างออกจากระบบ

โปรดทราบ: การส่งพัสดุที่เปิดอยู่จะถูกล้างออกจากระบบถ้าไม่ได้ยืนยันการส่งภายในวันห้าหลังจากการสร้างการจัดส่ง

API การจัดส่งพัสดุที่เปิดอยู่ จะใช้เมื่อคุณต้องการเพิ่มพัสดุหลายชิ้นกับการส่งครั้งเดียวตามเวลาและคุณไม่แน่ใจว่าจะมีพัสดุที่วางแผนว่าจะเพิ่มอยู่เท่าไรหรือไม่แน่ใจว่าการส่งจะสำเร็จเมื่อไร วิธีการนี้จะให้คุณมีทางเลือกที่ยืดหยุ่นเพื่อเตรียมการส่งของคุณตลอดวันจนกว่าคุณจะพร้อมที่จะส่ง

การจัดส่งพัสดุที่เปิดอยู่มันจะเป็นการส่งพัสดุหลายชิ้นแต่ก็สามารถเป็นการส่งพัสดุแบบชิ้นเดียวได้ เรียกว่าการส่งแบบชิ้นเดียว

เพื่อส่งการส่งพัสดุแบบหลายชิ้น (MPS) ให้กับผู้รับที่เดียว ใช้ API การจัดส่งพัสดุที่เปิดอยู่และเพิ่มพัสดุแต่ละชิ้นไปที่การส่งหรือเพิ่มพัสดุหลายชิ้นถ้าพัสดุเหล่านั้นมีผู้รับคนเดียวกัน

ต่อไปนี้คือบริการที่เกี่ยวข้องกับการส่งพัสดุที่เปิดอยู่:

• FedEx Express^® intra-U.S. and intra-Canada
• FedEx Ground^® intra-U.S. and intra-Canada
• FedEx Home Delivery^®
• FedEx International Priority^®
• FedEx International Priority^® Express (IPE)
• FedEx International Economy^®
• FedEx Priority Overnight^TM
• FedEx® Regional Economy
• FedEx® Regional Economy Freight
• FedEx International Connect Plus®
• FedEx® First
• FedEx Priority Express
• FedEx Priority
• FedEx Priority Express Freight
• FedEx Priority Freight
• FedEx Economy (เฉพาะในสหราชอาณาจักร)

ต่อไปนี้เป็นคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับ API การส่งพัสดุที่เปิดอยู่:

จัดการพัสดุที่เปิดอยู่

คุณลักษณะนี้ช่วยให้ผู้ส่งสามารถสร้าง ปรับเปลี่ยน ลบการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ได้ และสามารถรับพัสดุ?ี่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้วเพื่อดูซ้ำหรือยืนยันเป้าหมายได้ คุณลักษณะนี้ช่วยให้คุณสามารถยืนยันการส่งที่สำเร็จแล้วเพื่อถ่ายโอนข้อมูลการส่งไปที่ FedEx และเพื่อสร้างเอกสารการส่งที่เหมาะสมได้ คุณลักษณะนี้ยังช่วยระบุและรายงานความผิดพลาดในทรานแซคชัน ถ้ามี และให้สถานะที่เหมาะสม

ข้อมูลสำคัญของคุณลักษณะนี้คือ accountNumber, Shipment Data, groupPackageCount, index เพื่อแสดงบรรจุภัณฑ์หลักของการจัดส่ง ผลลัพธ์ของคุณสมบัตินี้จะช่วยให้แน่ใจว่าข้อมูลการส่งได้อัปโหลดไปที่ระบบของ FedEx แล้วและได้สร้างหมายเลขติดตาม ฉลาก และการรายงานการส่งที่เหมาะสม

การจัดการบรรจุภัณฑ์ของการส่งพัสดุที่เปิดอยู่

คุณลักษณะนี้ช่วยให้คุณเพิ่ม ปรับเปลี่ยน และลบบรรจุภัณฑ์ของการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้ว คุณยังสามารถรับบรรจุภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วสำหรับการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ได้

รับผลการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ (อะซิงโครนัส)

คุณสมบัตินี้ช่วยให้สามารถรับผลลัพธ์ของการส่งที่ยืนยันแล้วแบบอะซิงโครนัสได้ เมื่อการส่งพัสดุที่เปิดอยู่มีพัสดุ 40 ชิ้นหรือมากกว่าที่ยืนยันแล้ว API จะดำเนินการการส่งแบบอะซิงโครนัส

เมื่อได้ดำเนินการการส่งแบบอะซิงโครนัสแล้ว การตอบกลับต่อคำขอนี้จะเพียงแค่ยืนยันว่าคำขอได้อยู่ในคิวแล้วแม้ว่าการจัดส่งอาจจะดำเนินการสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ในการตอบจะคืนค่า jobId เพื่อรับผลลัพธ์ในภายหลัง โดยคุณสมบัตินี้จะใช้ jobId เพื่อรับผลการจัดส่งพัสดุแบบ Open Ship (สร้าง แก้ไข และยืนยัน) ที่อาจจะเป็นฉลากหรือรายงานการจัดส่ง อีกทั้ง คุณลักษณะนี้ยังช่วยระบุและรายงานความผิดพลาดในการจัดส่ง ถ้ามี และระบุสถานะที่เหมาะสม

โปรดทราบ: ถ้ามีข้อผิดพลาดในการตอบกลับของการส่งแบบอะซิงโครนัส แก้ไขข้อผิดพลาดและส่งคำขอการส่งใหม่

ส่วนนี้จะอธิบายเวิร์กโฟลว์ของ API การจัดส่งพัสดุที่เปิดอยู่อย่างละเอียด เวิร์กโฟลว์การจัดส่งพัสดุที่เปิดอยู่มีการจัดการอยู่สองทางหรือใช้ตัวเลือกกระบวนการสองแบบ:

เวิร์กโฟลว์สำหรับพัสดุ 40 ชิ้นหรือน้อยกว่า

1. ใช้ปลายทาง สร้างการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ เพื่อสร้างการส่งพัสดุที่เปิดอยู่พร้อมกับข้อมูลการส่ง ข้อมูลบรรจุภัณฑ์ accountNumber และ index ทั้งหมด
2. ใช้ปลายทาง เพิ่มพัสดุที่การส่งพัสดุที่เปิดอยู่ เพื่อเพิ่มบรรจุภัณฑ์หนึ่งชิ้นหรือมากกว่า (ไม่เกิน 40 ชิ้น) ไปที่การส่งพัสดุแบบเปิดที่สร้างไว้แล้ว อินพุตหลักคือ index และ accountNumber ของการส่งพัสดุแบบเปิดซึ่งบรรจุภัณฑ์จะเพิ่มไปที่นั่น
3. ใช้ปลายทาง ยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ เพื่อยืนยันว่าเพิ่มบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดแล้วและเตรียมการส่งเรียบร้อยแล้ว อินพุตหลักคือ index, และ accountNumber ของการส่งที่รอการยืนยัน

ปลายทาง ยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ เป็นปลายทางสุดท้ายในเวิร์กโฟลว์นี้ซึ่งจะยืนยันข้อมูลการส่งและบรรจุภัณฑ์และสร้างฉลากและการรายงานอื่น ๆ ทั้งหมดให้สำเร็จสำหรับการส่ง และยังคืนรายละเอียดความผิดพลาดขณะยืนยันให้ด้วย ความผิดพลาดเหล่านี้สามารถแก้ไขได้โดยใช้ปลายทาง Modify Open Shipment หรือ Modify Open Shipment Packages และยืนยันการส่งอีกครั้งเพื่อให้คำขอสำเร็จ

เวิร์กโฟลว์สำหรับพัสดุมากกว่า 40 ชิ้น

1. ใช้ปลายทาง สร้างการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ เพื่อสร้างการส่งพัสดุที่เปิดอยู่พร้อมกับข้อมูลการส่ง ข้อมูลบรรจุภัณฑ์ accountNumber และ index ทั้งหมด
2. ใช้ปลายทาง Add Open Shipment Packages เพื่อเพิ่มบรรจุภัณฑ์หนึ่งชิ้นหรือมากกว่า (ไม่เกิน 40 ชิ้น) ไปที่การส่งพัสดุแบบเปิดที่สร้างไว้แล้ว อินพุตหลักคือ index และ accountNumber ของการส่งพัสดุแบบเปิดซึ่งบรรจุภัณฑ์จะเพิ่มไปที่นั่น
3. ใช้ปลายทาง ยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ เพื่อยืนยันว่าเพิ่มบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดแล้วและเตรียมการส่งเรียบร้อยแล้ว อินพุตหลักคือ index, และ accountNumber ของการส่งที่รอการยืนยัน ในกรณีที่พัสดุมีมากกว่า 40 ชิ้น API จะดำเนินการการส่งแบบอะซิงโครนัสและส่งคืน jobId, ให้ใช้ภายหลังเพื่อรับผลลัพธ์ของการส่ง. ถ้าการตอบรับมีข้อผิดพลาด ข้อผิดพลาดเหล่านี้ก็ควรจะแก้ไขด้วยปลายทาง Modify Open Shipment หรือ Modify Open Shipment Packages และยืนยันการส่งด้วยการใช้ปลายทาง Confirm Open Shipment
4. ใช้ปลายทาง รับผลการจัดส่งพัสดุแบบ Open Ship เพื่อรับผลการจัดส่งพัสดุแบบ Open Ship ที่ให้คุณสามารถสร้าง แก้ไข และยืนยันการจัดส่งได้ เช่น ฉลากและ เอกสารการจัดส่ง โดยอินพุตหลักคือ jobId และ accountNumber สำหรับการจัดส่งที่ยืนยันแล้ว

ปลายทาง รับผลการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ เป็นปลายทางสุดท้ายในเวิร์กโฟลว์นี้ศึ่งจะรับผลลัพธ์ของการส่งพัสดุแบบเปิด เช่น ฉลากและรายงานอื่น ๆ สำหรับการส่งพัสดุแบบเปิดที่ยืนยันแล้ว ถ้ามีรายละเอียดความผิดพลาดส่งกลับไป สามารถแก้ไขความผิดพลาดได้โดยใช้ปลายทาง แก้ไขการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ หรือ แก้ไขพัสดุของการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ จากนั้นยืนยันการส่งโดยใช้ปลายทาง ยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ และสุดท้ายก็ใช้ปลายทาง รับผลการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ เพื่อรับผลของการส่งพัสดุแบบเปิดที่ยืนยันแล้วเพื่อรับคำขอที่สำเร็จ

ต่อไปนี้เป็นฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับ API การส่งพัสดุที่เปิดอยู่:

สร้างการจัดส่งพัสดุที่เปิดอยู่

ใช้ปลายทางนี้เพื่อสร้างการจัดส่งพัสดุที่เปิดอยู่พร้อมกับข้อมูลการส่งที่จำเป็นและกำหนดพัสดุหนึ่งชิ้นในการส่งเป็นอย่างน้อย

ต่อไปนี้คืออินพุตข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการสร้างการส่งพัสดุที่เปิดอยู่:

• openShipmentAction – นี่คือการกระทำอย่างหนึ่งของการส่งพัสดุที่เปิดอยู่และในกรณีนี้ ใช้ค่าเป็น CREATE_PACKAGE
• accountNumber – นี่คือหมายเลขสมาชิก FedEx
• requestedShipment – รายละเอียดการส่งของการส่งพัสดุที่เปิดอยู่
• index – ค่าเฉพาะตัวของการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ ค่านี้มีประโยชน์สำหรับการปรับแต่งการส่งหรือตัวพัสดุ นี่เป็นสิ่งที่จะระบุหรือไม่ก็ได้ ถ้าไม่ได้ระบุไว้ สามารถใช้หมายเลขติดตามหลักเพื่อระบุการส่งเฉพาะได้

การตอบรับที่สำเร็จของคำขอนี้จะดำเนินการการส่งและสร้างหมายเลขติดตาม ซึ่งจะเป็นหมายเลขติดตามหลักสำหรับบรรจุภัณฑ์ชิ้นแรก โปรดทราบว่าจะไม่มีการสร้างฉลากในการตอบรับนี้

เพิ่มพัสดุการจัดส่งพัสดุที่เปิดอยู่

ใช้ปลายทางนี้เพื่อเพิ่มพัสดุหนึ่งชิ้นหรือมากกว่ากับคำขอการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้วก่อนจะยืนยันการจัดส่ง คุณสามารถส่งคำขอเพิ่มพัสดุแยกสำหรับแต่ละบรรจุภัณฑ์ของคุณขณะที่คุณเตรียมการส่งได้ตลอดวัน คุณยังจะสามารถส่งทีละหลายชิ้นภายในคำขอการเพิ่มพัสดุได้อีกด้วย

โปรดทราบ: จำนวนพัสดุทั้งหมดสำหรับการส่งต้องไม่เกินขีดจำกัดจำนวนพัสดุของการส่งพัสดุที่เปิดอยู่

ต่อไปนี้คืออินพุตข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการเพิ่มพัสดุกับการส่งพัสดุที่เปิดอยู่:

• index – นี่คือค่าเฉพาะตัวที่ให้กับการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้ว ถ้าไม่มีค่านี้ก็ให้หมายเลขติดตามหลัก
• requestedPackageLineItem – ข้อมูลรายละเอียดของพัสดุที่จะเพิ่ม
• accountNumber – นี่คือหมายเลขสมาชิก FedEx

การตอบกลับที่สำเร็จสำหรับคำขอนี้จะสร้างหมายเลขติดตามสำหรับพัสดุที่เพิ่มเข้ามาใหม่

ปรับแต่งพัสดุของการส่งพัสดุที่เปิดอยู่

ใช้ปลายทางนี้เพื่อแก้ไขรายละเอียดของพัสดุหนึ่งชิ้นหรือมากกว่าจากการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่มีอยู่แล้วก่อนจะยืนยันการส่ง สิ่งนี้รวมถึงพัสดุหลักเช่นกัน ซึ่งก็คือพัสดุชิ้นแรกที่เพิ่มเข้ามาในการส่งพัสดุที่เปิดอยู่

ต่อไปนี้คือข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคำขอนี้:

• index – นี่คือค่าเฉพาะตัวที่ให้กับการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้ว ถ้าไม่มีค่านี้ก็ให้หมายเลขติดตามหลัก
• accountNumber – นี่คือหมายเลขสมาชิก FedEx
• trackingId – Id การติดตามของพัสดุการส่งพัสดุที่เปิดอยู่หนึ่งชิ้นหรือมากกว่าที่จะแก้ไข
• requestedPackageLineItem – ข้อมูลรายละเอียดของพัสดุที่จะเพิ่ม

คำขอที่สำเร็จจะอัปเดตพัสดุที่ต้องการและส่งคืนรายละเอียดการส่งที่อัปเดตแล้ว

ลบพัสดุการส่งพัสดุที่เปิดอยู่

ใช้ปลายทางนี้เพื่อลบพัสดุหนึ่งชิ้นหรือมากกว่าจากการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้วก่อนจะยืนยันการส่ง

ต่อไปนี้คือข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคำขอนี้:

• index – นี่คือค่าเฉพาะตัวที่ให้กับการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้ว ถ้าไม่มีค่านี้ก็ให้หมายเลขติดตามหลัก
• accountNumber – นี่คือหมายเลขสมาชิก FedEx
• trackingId – Id การติดตามของพัสดุการส่งพัสดุที่เปิดอยู่หนึ่งชิ้นหรือมากกว่าที่ได้รับคำขอการลบ

คำขอที่สำเร็จจะลบพัสดุที่ต้องการและจะส่งคืนสถานะของ deletedPackagesFromOpenshipment เป็น true ในเอาท์พุต

โปรดทราบ: ถ้าพัสดุหลักถูกลบออกไปในการส่ง พัสดุชิ้นต่อไปในลำดับจะเป็นพัสดุหลักแทนและหมายเลขติดตามหลักจะเปลี่ยนไปที่พัสดุชิ้นนั้นและลำดับของตัวเลขจะลดลงตามจำนวนพัสดุที่ลบไป

เรียกดูพัสดุการส่งพัสดุที่เปิดอยู่

ใช้ปลายทางนี้เพื่อเรียกดูพัสดุหนึ่งชิ้นหรือมากกว่าจากการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้วเพื่อตรวจทานหรือตรวจสอบอีกครั้ง

ต่อไปนี้คือข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคำขอนี้:

• index – นี่คือค่าเฉพาะตัวที่ให้กับการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้ว ถ้าไม่มีค่านี้ก็ให้หมายเลขติดตามหลัก
• accountNumber – นี่คือหมายเลขสมาชิก FedEx
• trackingId – Id การติดตามของพัสดุการส่งพัสดุที่เปิดอยู่หนึ่งชิ้นหรือมากกว่าที่จะเรียกดู

คำขอที่สำเร็จจะให้พัสดุที่ต้องการ

แก้ไขการส่งพัสดุที่เปิดอยู่

ใช้ปลายทางนี้เพื่อแก้ไขคำขอการส่งพัสดุที่เปิดอยู่พร้อมข้อมูลการส่งที่จำเป็นก่อนจะยืนยันการส่ง

ต่อไปนี้คือข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคำขอนี้:

• index – นี่คือค่าเฉพาะตัวที่ให้กับการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้ว ถ้าไม่มีค่านี้ก็ให้หมายเลขติดตามหลัก
• accountNumber – นี่คือหมายเลขสมาชิก FedEx
• requestedShipment – รายละเอียดของการส่งที่ได้แก้ไขของการส่งพัสดุที่เปิดอยู่

คำขอที่สำเร็จจะอัปเดตรายละเอียดการส่งกับการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้วและจะคืนหมายเลขติดตามสำหรับพัสดุที่ได้รับการแก้ไขและรายละเอียดทรานแซคชันการส่งที่อัปเดตแล้วเป็นเอาท์พุต

เรียกดูการส่งพัสดุที่เปิดอยู่

ใช้ปลายทางนี้เพื่อเรียกดูการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้วเพื่อตรวจทานหรือตรวจสอบอีกครั้ง

ต่อไปนี้คือข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคำขอนี้:

• index – นี่คือค่าเฉพาะตัวที่ให้กับการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้ว ถ้าไม่มีค่านี้ก็ให้หมายเลขติดตามหลัก
• accountNumber – นี่คือหมายเลขสมาชิก FedEx

คำขอที่สำเร็จจะให้ข้อมูลการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่ต้องการ

ลบการส่งพัสดที่เปิดอยู่

ใช้ปลายทางนี้เพื่อลบคำขอการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ก่อนจะยืนยันการส่ง

ต่อไปนี้คือข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคำขอนี้:

• index – นี่คือค่าเฉพาะตัวที่ให้กับการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้ว ถ้าไม่มีค่านี้ก็ให้หมายเลขติดตามหลัก
• accountNumber – นี่คือหมายเลขสมาชิก FedEx

คำขอที่สำเร็จจะลบการส่งพัสดุที่เปิดอยู่และพัสดุที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและจะคืนสถานะใย deletedOpenshipment เป็น true ในเอาท์พุต

ยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่

ใช้ปลายทางนี้เพื่อยืนยันและอัปโหลดข้อมูลการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ไปที่ระบบของ FedEx เมื่อเพิ่มพัสดุทั้งหมดในคำขอการส่งแล้ว

ต่อไปนี้คือข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคำขอนี้:

• index – นี่คือค่าเฉพาะตัวที่ให้กับการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่สร้างไว้แล้ว ถ้าไม่มีค่านี้ก็ให้หมายเลขติดตามหลัก
• accountNumber – นี่คือหมายเลขสมาชิก FedEx
• labelResponseOptions – ระบุว่าจะให้ไบต์โค้ดที่เข้ารหัสหรือ URL ของฉลากคืนในการตอบกลับ
  หมายเหตุ: องค์ประกอบ labelResponseOptions มีเฉพาะในคำขอยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่เท่านั้น และฉลากจะถูกสร้างขึ้นหลังยืนยันการจัดส่ง

การตอบกลับการยืนยันที่สำเร็จสำหรับ พัสดุ 40 ชิ้นหรือน้อยกว่า จะอัปโหลดข้อมูลไปที่ระบบของ FedEx และสร้างฉลากสำหรับพัสดุและรายงานการส่งอื่นๆ ทั้งหมด

การตอบกลับการยืนยันที่สำเร็จสำหรับ พัสดุมากกว่า 40 ชิ้น จะยืนยันว่าคำขอได้อยู่ในคิวแล้วและจะส่ง jobId กลับไปเพื่อเรียกดูผลลัพธ์ในภายหลัง

หมายเหตุ: ควรมีพัสดุอย่างน้อยหนึ่งชิ้นในการจัดส่งพัสดุที่เปิดอยู่ก่อน จึงจะสามารถยืนยันการจัดส่งได้

รับผลของการพัสดุที่เปิดอยู่

ใช้ปลายทางนี้เพื่อรับข้อมูลการส่งของการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่ยืนยันแล้ว ปลายทางนี้ควรจะใช้เมื่อการส่งมีพัสดุมากกว่า 40 ชิ้นเท่านั้น และจะคืน jobId ในการยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ให้

ต่อไปนี้คือข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคำขอนี้:

• resultMethodType – ระบุค่าเป็น CREATE
• accountNumber – นี่คือหมายเลขสมาชิก FedEx
• jobId – นี่คือ jobId ที่ได้รับระหว่างการยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่

การตอบกลับที่สำเร็จสำหรับคำขอนี้จะส่งผลลัพธ์การส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่ยืนยันแล้วคืนให้ อย่างเช่น ฉลากพัสดุและรายงานการส่งอื่นๆ สำหรับการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ที่ยืนยันแล้ว ถ้ามีรายละเอียดความผิดพลาดส่งกลับไป สามารถแก้ไขความผิดพลาดได้โดยใช้ปลายทาง แก้ไขการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ หรือ แก้ไขพัสดุของการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ จากนั้นยืนยันการส่งโดยใช้ปลายทาง ยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ และสุดท้ายก็ใช้ปลายทาง รับผลการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ เพื่อรับผลของการส่งพัสดุแบบเปิดที่ยืนยันแล้วเพื่อรับคำขอที่สำเร็จ

การส่งพัสดุที่เปิดอยู่แบบหลายชิ้น (MPS) ประกอบด้วยพัสดุสองชิ้นหรือมากกว่าส่งไปที่ที่อยู่ผู้รับเดียวกัน บรรจุภัณฑ์ชิ้นแรกในคำขอจัดส่งถือเป็นบรรจุภัณฑ์หลัก

ในการสร้างการส่งพัสดุแบบหลายชิ้น:

• ต้องรวมข้อมูลระดับพัสดุที่จัดส่ง เช่น รายละเอียด serviceType, packagingType, totalWeight, totalPackageCount, และ requestedPackageLineItems สำหรับบรรจุภัณฑ์หลัก
  โปรดทราบ: sequenceNumber สำหรับบรรจุภัณฑ์หลักต้องเท่ากับ 1
• เพิ่มบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดไปที่การส่ง
• ยืนยันการส่ง

หลังจากการยืนยันการส่งก็จะใช้หนึ่งในตัวเลือกกระบวนการด้านล่างนี้:

การดำเนินการจัดส่งแบบซิงโครนัส

การดำเนินการแบบซิงโครนัสเป็นหนึ่งในวิธีการดำเนินการที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งใช้ภายในเมื่อการจัดส่งมีพัสดุไม่เกิน 40 ชิ้น (พัสดุทั้งหมด/grouppackagecount<=40) พร้อมด้วยสินค้าที่จำกัดในการจัดส่ง

คำขอจัดส่งที่มีพัสดุไม่เกิน 40 ชิ้น จะได้รับการดำเนินการแบบซิงโครนัสเมื่อยืนยันแล้ว และฉลากและเอกสาร/รายงานการจัดส่งอื่นๆ จะถูกสร้างขึ้นในทันที การดำเนินการนี้เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ส่ง หากมีข้อจำกัดด้านเวลาและต้องพิมพ์ฉลากทันที

หมายเหตุ: ขีดจำกัดสูงสุดของพัสดุเป็น 40 ชิ้นเป็นแค่ตัวบ่งชี้และไม่ใช่ขีดจำกัดคงที่ ขีดจำกัดยังขึ้นอยู่กับการรวมกันของพัสดุและสินค้าในการจัดส่งอีกด้วย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อทีมสนับสนุนของ FedEx ของคุณ

ตัวอย่าง: คำของการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ของคุณมีบรรจุภัณฑ์ 10 ชิ้น เมื่อคุณยืนยันการส่งหลังจากเพิ่มบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด 10 ชิ้นแล้ว การส่งจะดำเนินการแบบซิงโครนัส ในการตอบกลับ จะมีการสร้างฉลาก 10 ฉลาก และ URL ของฉลากหรือฉลากที่เข้ารหัสอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ขอจะให้มากับการตอบกลับด้วย

เวิร์กโฟลว์ระดับสูงต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการจัดส่งพัสดุที่เปิดอยู่แบบซิงโครนัส:

1. ใช้ปลายทาง สร้างการส่งพัสดุที่เปิดอยู่
2. เพิ่มบรรจุภัณฑ์ 1-40 ชิ้นโดยใช้ปลายทาง เพิ่มพัสดุไปที่การส่งพัสดุที่เปิดอยู่
3. ใช้ปลายทาง ยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ เพื่อยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่นี้
4. คำขอที่สำเร็จแล้วควรสร้างฉลากได้ และการตอบกลับแบบเอาต์พุตจะมี URL ของฉลากหรือฉลากที่เข้ารหัสตามที่ร้องขอให้
5. หากการจัดส่งมีข้อผิดพลาด รายละเอียดข้อผิดพลาดจะถูกระบุไว้ในการตอบกลับ
6. หลังจากแก้ไขข้อผิดพลาดทั้งหมดแล้ว ใช้ปลายทาง ยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ สำหรับการตอบกลับที่สำเร็จ

หมายเหตุ: 

• ในวิธีนี้ หากคุณต้องการเพิ่มพัสดุเพิ่มเติมในการจัดส่งที่มีอยู่ คุณสามารถเพิ่มได้ถึง 40 รายการเท่านั้น 

การดำเนินการจัดส่งแบบอะซิงโครนัส

API จะดำเนินการการส่งแบบอะซิงโครนัสภายในเมื่อจำนวนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดสูงกว่า 40 (เช่น totalPackageCount>40) นี่เป็นวิธีการที่สะดวกมาก เมื่อพัสดุของคุณมีปริมาณมากและคุณต้องการส่งการจัดส่งพัสดุจำนวนมากเป็นระยะๆ การส่งพัสดุจำนวนมากนี้ใช้ทรัพยากรและการดำเนินงานมากมายที่มีราคาสูงของ FedEx เมื่อส่งพร้อมกัน ด้วยตัวเลือกการดำเนินการนี้ FedEx จะทำการตรวจสอบภายในให้แน่ใจว่าการจัดส่งพัสดุจำนวนมากเหล่านี้ได้รับการดำเนินการ และคุณสามารถรับข้อมูลฉลากได้เป็นระยะๆ

เมื่อการส่งได้รับการดำเนินการแบบอะซิงโครนัส การตอบกลับคำขอนี้จะเป็นการยืนยันว่าคำขออยู่ในคิวแล้วเท่านั้น แต่การจัดส่งอาจดำเนินการไม่สำเร็จก็ได้ และยังส่งคืน jobId เพื่อเรียกดูผลลัพธ์ในภายหลัง

หมายเหตุ: การดำเนินการนี้ต้องใช้เวลาพอสมควรในการดำเนินการจัดส่งอย่างเสร็จสมบูรณ์ก่อนที่คุณจะเรียกดูผลลัพธ์

สำหรับการเรียกดูผลลัพธ์ของการจัดส่งแบบอะซิงโครนัส ให้ใช้ปลายทาง รับผลการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ และให้รายละเอียด jobId และ accountNumber ในคำขอ คำขอนี้จะส่งคืนข้อมูลผลการจัดส่งพร้อมรายละเอียดฉลากหรือรายละเอียดข้อผิดพลาดในการจัดส่ง

ตัวอย่าง: การจัดส่งของคุณประกอบด้วยพัสดุ 45 ชิ้น เมื่อยืนยันจะได้รับการดำเนินการแบบอะซิงโครนัส ในการตอบกลับ จะส่ง jobId คืนให้ คุณควรใช้ปลายทาง รับผลการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ เพื่อเรียกดูผลการจัดส่งและข้อมูลฉลาก

เวิร์กโฟลว์ระดับสูงต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการจัดส่งแบบอะซิงโครนัส:

1. ใช้ปลายทาง สร้างการส่งพัสดุที่เปิดอยู่
2. เพิ่มบรรจุภัณฑ์ 40 ชิ้นหรือมากกว่าโดยใช้ปลายทาง เพิ่มพัสดุไปที่การส่งพัสดุที่เปิดอยู่
3. ใช้ปลายทาง ยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ เพื่อยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่นี้
4. การส่งที่สำเร็จจะแสดง jobId
5. ใช้ jobId และ accountNumber เพื่อเรียกดูผลลัพธ์เอาต์พุตโดยใช้ปลายทาง รับผลการส่งพัสดุที่เปิดอยู่
6. เอาต์พุตที่เสร็จสมบูรณ์จะแสดงข้อมูลผลลัพธ์การส่งพร้อมรายละเอียดของฉลาก
7. หากผลลัพธ์มีข้อผิดพลาด รายละเอียดข้อผิดพลาดจะถูกระบุไว้ในการตอบกลับ

หมายเหตุ:

• ในวิธีนี้ จำนวนพัสดุสูงสุดที่อนุญาตคือ 300 หรือมากถึง 999 รายการในคำขอเดียว 
• ในวิธีนี้ เมื่อส่งคำขอแล้ว คุณจะไม่สามารถเพิ่มพัสดุใหม่ แก้ไข หรือลบพัสดุในคำขอเดิมได้ หากมีข้อผิดพลาดในการตอบกลับ ให้แก้ข้อผิดพลาดโดยใช้ปลายทาง แก้ไขพัสดุของการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ จากนั้นยืนยันการส่งโดยใช้ ยืนยันการส่งพัสดุที่เปิดอยู่ และรับเอาต์พุตผลลัพธ์ที่สำเร็จโดยใช้ปลายทาง รับผลการส่งพัสดุที่เปิดอยู่

FedEx API รองรับฉลากที่หลากหลาย FedEx API รองรับตัวเลือกฉลากสามประเภท ได้แก่ ฉลากแบบใช้ความร้อน ฉลากแบบกระดาษธรรมดา และฉลากที่สามารถปรับแต่งได้ คุณสามารถใช้ปลายทางของ API เพื่อสร้างฉลากหลากหลายรูปแบบได้

FedEx เสนอรูปแบบฉลาก 2 รูปแบบ เพื่อรองรับบริการจัดส่ง:

• ฉลากแบบใช้ความร้อน
• ฉลากเลเซอร์

ฉลากแบบใช้ความร้อน

FedEx API อนุญาตให้คุณพิมพ์ฉลากการจัดส่งสำหรับการจัดส่งทุกประเภท เช่น FedEx Express^®, FedEx Ground^® และ FedEx International Ground^® โดยใช้เครื่องพิมพ์ฉลากแบบใช้ความร้อนที่หลากหลาย

ขนาดของฉลากแบบใช้ความร้อนต่อไปนี้มีการรองรับโดย FedEx API:

• 4' x 6' – ไม่มีแท็บเอกสารที่กำหนดค่าได้ (Doc-Tab)
• 4' x 6.75' – มีหรือไม่มีแท็บเอกสาร
• 4' x 8' – มีพื้นที่สำหรับใส่ไฟล์กราฟิกหรือข้อความที่คุณเลือก
• 4'' x 8.5'' – พร้อมแท็บเอกสารที่กำหนดค่าได้ (รวมไว้เฉพาะสำหรับฉลากระบุยางรถ)
• 4' x 9' – มีพื้นที่สำหรับกราฟิกหรือข้อความ รวมทั้งแท็บเอกสาร
• 4'' x 10.5'' – พร้อมแท็บเอกสารที่กำหนดค่าได้ (รวมไว้เฉพาะสำหรับฉลากระบุยางรถ)
  

ประเภทคลังฉลาก 4"X8.5" และ 4"X10.5” ประกอบด้วยแท็บเอกสารเพิ่มเติมที่มีบาร์โค้ดแบบเดียวกัน โดยจะบาร์โค้ดหนึ่งจะอยู่บนฉลากหลักและอีกอันบนแท็บเอกสาร ซึ่งค่าประเภทคลังฉลากนี้ใช้สำหรับบรรจุภัณฑ์ยางรถ สามารถติดฉลากหนึ่งไว้ที่ดอกยางและฉลากแท็บเอกสารเพิ่มเติมพร้อมสำเนาบาร์โค้ดและคำแนะนำการใช้งานสำหรับแก้มยาง การใช้ประเภทคลังฉลากเหล่านี้ช่วยลดการที่ต้องติดฉลากยางรถใหม่ และการสแกนขนาดที่ดีขึ้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคืนตัว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคลังฉลาก โปรดดูที่ ประเภทคลังฉลาก

หมายเหตุ: แท็บเอกสารเป็นแถบแบบกาวลอกออกได้ที่มีข้อมูลการจัดส่งเพิ่มเติม ซึ่งสามารถเลือกไว้ได้สำหรับคลังฉลากขณะพิมพ์ฉลากสำหรับการจัดส่งโดยใช้เครื่องพิมพ์ความร้อน

องค์ประกอบฉลากแบบใช้ความร้อน

ฉลากการจัดส่งแบบใช้ความร้อนประกอบไปด้วยองค์ประกอบพื้นฐานสามประการ:

• เนื้อหาที่มนุษย์อ่านออก: ส่วนนี้ของฉลากมีข้อมูลการจัดส่ง
• บาร์โค้ดที่มนุษย์อ่านออกของบริการ Ground จะถูกเข้ารหัสเป็นค่าเริ่มต้น
• บาร์โค้ดสองมิติ (2D): บาร์โค้ดแบบตัวเลขและตัวอักษรเชิงมิติจัดเก็บข้อมูลสำหรับการจัดส่งทั้งแบบ FedEx Express และ FedEx Ground โดยใช้มาตรฐานของสถาบันมาตรฐานแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (ANSI) MH10.8.3 บาร์โค้ด 2 มิติ ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เครื่องหมายของไฟล์ข้อมูลพกพา 417 (PDF)
• บาร์โค้ดแบบเฉพาะของ FedEx:
  • ASTRA (ความช่วยเหลือในการจำแนก การติดตาม การกำหนดเส้นทางขั้นสูง) สำหรับการจัดส่ง FedEx Express จนกว่าบาร์โค้ด FDX 1D จะเข้าสู่ขั้นตอนโดยสมบูรณ์ บาร์โค้ด '96' สำหรับการจัดส่ง FedEx Ground และ FedEx Home Delivery นอกจากนั้น FedEx Ground ยังอนุญาตให้ใช้บาร์โค้ด SSCC-18 "00" ได้อีกด้วย
  • บาร์โค้ด FedEx 1D (FDX1D) สำหรับการจัดส่ง FedEx Express สร้างขึ้นโดยใช้ ANSI/AIM BC4-1995 (Uniform Symbology Specification CODE-128C)

ข้อมูลสำคัญในการสร้างฉลากแบบใช้ความร้อน

รายการต่อไปนี้เป็นข้อมูลสำคัญที่จำเป็นในการสร้างฉลากแบบใช้ความร้อน:

• LabelFormatType: จำเป็นต้องได้รับภาพฉลากที่ถูกต้องใน Ship Reply API:
  • COMMON2D: ประเภทรูปแบบฉลากที่จะใช้เพื่อรับฉลาก
  • LABEL_DATA_ONLY: ค่าที่ใช้เพื่อรับข้อมูลบาร์โค้ดหากคุณสร้างฉลากที่ปรับแต่งเอง

ค่าที่ถูกต้อง:

• ImageType: จำเป็นในการจัดรูปแบบฉลากแบบใช้ความร้อนสำหรับเครื่องพิมพ์ที่คุณใช้ ระบุประเภทของกระแสข้อมูลหรือภาพบิตแมปที่จะส่งคืน

  • EPL2 – Eltron (ประเภทคลังฉลาก)
  • ZPLII – Zebra (ประเภทคลังฉลาก)

ค่าที่ถูกต้อง:

หมายเหตุ: ฉลากทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการจัดส่งจะถูกสร้างขึ้นและส่งคืนในบัฟเฟอร์เดียว

เครื่องพิมพ์ระบบความร้อนที่รองรับ

แนะนำให้ใช้เครื่องพิมพ์ระบบความร้อนต่อไปนี้กับ FedEx API:

• Unimark
• Eltron
  • Orion (EPL2)
  • Eclipse (EPL2)
• Zebra
  • LP2443 (EPL2)
  • LP2844 (EPL2)
  • Gk420 (ZPL)
  • LP2348 Plus (EPL2/ZPL)
  • Z4M Plus (ZPL or EPL)
  • ZP500/ZP505 (EPL2/ZPL)
  • Z4M/Z4M+ (EPL2/ZPL)
  • ZM400 (EPL2/ZPL)
  • ZT410 (EPL2/ZPL)
  • เครื่องพิมพ์ซีรีส์ ZT4xx อื่นๆ (EPL2/ZPL)

หมายเหตุ: เครื่องพิมพ์เหล่านี้ทั้งหมดเข้ากันได้กับโหมดเพจ ASCII Eltron Programming Language (EPL2) เครื่องพิมพ์ระบบความร้อนรองรับทั้งการเขียนบันทึกโดยตรงไปยังเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับพอร์ตซีเรียลของระบบ และเป็นเครื่องพิมพ์ที่ติดตั้ง Windows สำหรับการเชื่อมต่อ LPT, Serial หรือ USB เวอร์ชันเฟิร์มแวร์ของเครื่องพิมพ์ที่ FedEx จัดหาให้อาจแตกต่างกันไปตามภูมิภาค

จำนวนฉลากแบบใช้ความร้อนที่พิมพ์ต่อบริการ

ตารางต่อไปนี้ระบุจำนวนฉลากแต่ละประเภทที่จำเป็นสำหรับบริการพิเศษโดยเฉพาะ ฉลากที่จำเป็นทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยการติดต่อไปที่ FedEx Common Label Server (CLS) และ CLS จะส่งคืนมาในบัฟเฟอร์เดียว ยกเว้นฉลากการส่งคืน C.O.D.

จำนวนฉลากแบบใช้ความร้อนที่พิมพ์ต่อบริการของสหรัฐฯ

ประเภทบริการ	ฉลากแบบใช้ความร้อน (FedEx CLS จะส่งคืนฉลากตามจำนวนที่เหมาะสมในการตอบกลับ)
FedEx Express U.S.	1 ฉลากการจัดส่ง
FedEx Ground U.S. / FedEx Home Delivery	1 ฉลากการจัดส่ง

จำนวนฉลากแบบใช้ความร้อนที่พิมพ์ต่อบริการการส่งออกนอกประเทศของสหรัฐฯ

ประเภทบริการ	ฉลากแบบใช้ความร้อน (FedEx CLS จะส่งคืนฉลากตามจำนวนที่เหมาะสมในการตอบกลับ)
FedEx Express U.S. Export International	1 ฉลากการจัดส่ง 2 ฉลากผู้รับ
FedEx Express U.S. Export International Broker Select Option	1 ฉลากการจัดส่ง 2 ฉลากผู้รับ
FedEx Ground U.S. Export International	1 ฉลากการจัดส่ง
FedEx Ground U.S. Export International C.O.D.	1 ฉลากการจัดส่ง 2 ฉลากการส่งคืน C.O.D.

จำนวนฉลากแบบใช้ความร้อนที่พิมพ์ต่อบริการของภายในแคนาดา

ประเภทบริการ	ฉลากแบบใช้ความร้อน (FedEx CLS จะส่งคืนฉลากตามจำนวนที่เหมาะสมในการตอบกลับ)
FedEx Express intra-Canada	การจัดส่งสินค้าที่ไม่ใช่สินค้า DG (สินค้าอันตราย)/น้ำแข็งแห้ง: 1 ฉลากการจัดส่ง
FedEx Ground intra-Canada	1 ฉลากการจัดส่ง
FedEx Ground intra-Canada C.O.D.	1 ฉลากการจัดส่ง 2 ฉลากการส่งคืน C.O.D.

จำนวนฉลากแบบใช้ความร้อนที่พิมพ์ต่อบริการการส่งออกนอกประเทศของแคนาดา

ประเภทบริการ	ฉลากแบบใช้ความร้อน (FedEx CLS จะส่งคืนฉลากตามจำนวนที่เหมาะสมในการตอบกลับ)
FedEx Express Canada Export International	การจัดส่งสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าอันตราย/น้ำแข็งแห้ง: 1 ฉลากการจัดส่ง 2 ฉลากผู้รับ
FedEx Express Canada Export International Broker Select	การจัดส่งสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าอันตราย/น้ำแข็งแห้ง: 1 ฉลากการจัดส่ง 2 ฉลากผู้รับ
FedEx Ground Canada (CA) Export International	1 ฉลากการจัดส่ง

จำนวนฉลากแบบใช้ความร้อนที่พิมพ์ต่อการส่งภายในพื้นที่ฟิลิปปินส์และประเทศไทย

ประเภทบริการ	ฉลากแบบใช้ความร้อน (FedEx CLS จะส่งคืนฉลากตามจำนวนที่เหมาะสมในการตอบกลับ)
การจัดส่งขาเข้าของฟิลิปปินส์	2 ฉลากการจัดส่งพร้อมพิมพ์เลขที่บัญชี 1 ฉลากผู้รับที่ไม่พิมพ์เลขที่บัญชี 3 สำเนาใบกำกับสินค้าพาณิชย์
การจัดส่งสินค้าขาเข้าของไทย	3 ฉลากการจัดส่งพร้อมพิมพ์เลขที่บัญชี 1 ฉลากผู้รับที่ไม่พิมพ์เลขที่บัญชี
การจัดส่งเอกสารขาเข้าของไทย	2 ฉลากการจัดส่งพร้อมพิมพ์เลขที่บัญชี 1 ฉลากผู้รับที่ไม่พิมพ์เลขที่บัญชี

แท็บเอกสาร

หากคุณพิมพ์ฉลากการจัดส่งโดยใช้เครื่องพิมพ์ระบบความร้อน คุณสามารถเลือกคลังฉลากที่มีแท็บเอกสาร ซึ่งเป็นแถบกาวแบบลอกออกได้พร้อมข้อมูลการจัดส่งเพิ่มเติม คุณสามารถกำหนดค่าข้อมูลการจัดส่งนี้จากข้อมูลการจัดส่งของคุณ หรือเลือกพิมพ์ข้อมูลที่กำหนดค่าได้ที่เจาะจงต่อความต้องการในการจัดส่งของคุณ

ฉลากเลเซอร์

FedEx API รองรับการพิมพ์ฉลากด้วยเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ฉลากเหล่านี้มักจะพิมพ์บนกระดาษ U.S. Letter หรือ A4 และพับครึ่งเพื่อให้พอดีกับมาตรฐานของถุงฉลาก FedEx ฉลากที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์เลเซอร์จะถูกสร้างขึ้นในรูปแบบ PDF และไม่จำเป็นต้องปรับสเกลหรือปรับขนาด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคลังฉลาก โปรดดูที่ ประเภทคลังฉลาก

ข้อกำหนดเบื้องต้น

ข้อกำหนดต่อไปนี้ใช้กับฉลาก PDF:

• ต้องใช้ Adobe Reader 6.0 หรือใหม่กว่าในการประมวลผลฉลาก
• การกำหนดค่าไดรเวอร์เครื่องพิมพ์ต้องตั้งค่าการปรับขนาดเครื่องพิมพ์เป็นไม่มี
• การใช้ HTML wrapper ไม่จำเป็นสำหรับการแสดงฉลาก PDF แบบกระดาษทั่วไปในเบราว์เซอร์
• Acrobat แนะนำเบราว์เซอร์ต่อไปนี้สำหรับการดูเอกสาร PDF:
  • Microsoft Internet Explorer 10 หรือใหม่กว่า
  • Firefox 1.0 หรือใหม่กว่า
  • Mozilla 1.7 หรือใหม่กว่า

ตัวเลือกฉลากแบบ PDF ไม่จำเป็นต้องระบุพารามิเตอร์การวางแนวรูปภาพ (ความกว้างและความสูง) หรือความละเอียดหน้าจอเพื่อแสดงฉลากอย่างถูกต้องในเบราว์เซอร์

องค์ประกอบฉลากเลเซอร์

ฉลากการจัดส่งแบบเลเซอร์ประกอบไปด้วยองค์ประกอบพื้นฐานสามประการ:

• เนื้อหาที่มนุษย์อ่านออก – ส่วนนี้ของฉลากมีข้อมูลการจัดส่ง
• บาร์โค้ดที่มนุษย์อ่านออกของบริการ Ground จะถูกเข้ารหัสเป็นค่าเริ่มต้น
• บาร์โค้ดสองมิติ (2D) – บาร์โค้ดแบบตัวเลขและตัวอักษรจัดเก็บข้อมูลสำหรับการจัดส่งทั้งแบบ FedEx Express และ FedEx Ground โดยใช้มาตรฐานของสถาบันมาตรฐานแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (ANSI) MH10.8.3 บาร์โค้ด 2 มิติถูกสร้างขึ้นโดยใช้รูปแบบของไฟล์ข้อมูลพกพา 417 (PDF)
• บาร์โค้ดแบบเฉพาะของ FedEx:
  • ASTRA (ความช่วยเหลือในการจำแนก การติดตาม การกำหนดเส้นทางขั้นสูง) สำหรับการจัดส่ง FedEx Express จนกว่าบาร์โค้ด FDX 1D จะเข้าสู่ขั้นตอนโดยสมบูรณ์ บาร์โค้ด '96' สำหรับการจัดส่ง FedEx Ground และ FedEx Home Delivery นอกจากนั้น FedEx Ground ยังอนุญาตให้ใช้บาร์โค้ด SSCC-18 '00' ได้เมื่อจำเป็นต้องใช้
  • บาร์โค้ด FedEx 1D (FDX1D) สำหรับการจัดส่ง FedEx Express สร้างขึ้นโดยใช้ ANSI/AIM BC4-1995 (Uniform Symbology Specification CODE-128C)

ข้อมูลสำคัญในการสร้างฉลากเลเซอร์

องค์ประกอบของ FedEx API ต่อไปนี้จำเป็นในการสร้างฉลากเลเซอร์:

• LabelSpecification/LabelFormatType: จำเป็นต้องได้รับภาพฉลากที่ถูกต้องใน Open Ship Reply API: ค่าที่ถูกต้องคือ
  • COMMON2D – ประเภทรูปแบบฉลากที่จะใช้เพื่อรับฉลาก
  • LABEL_DATA_ONLY – ค่าที่ใช้เพื่อรับข้อมูลบาร์โค้ดหากคุณสร้างฉลากที่ปรับแต่งเอง

• LabelSpecification/ImageType: จำเป็นในการระบุการจัดรูปแบบฉลาก ประเภทของกระแสข้อมูลหรือบิตแมปที่จะส่งคืน:

  ค่าที่ถูกต้องคือ:

  • PDF – กระดาษทั่วไป
  • PNG – กระดาษทั่วไป

• LabelSpecification/LabelStockType: จำเป็นสำหรับฉลากทุกประเภท ต้องระบุว่าคลังฉลากมีแท็บเอกสารอยู่ส่วนบนสุดหรือท้ายสุดของฉลาก หรือไม่มีแท็บเอกสาร เมื่อใช้ ImageType ของ PDF หรือ PNG ค่าเหล่านี้จะแสดงฉลากในรูปแบบเลเซอร์:
  • PAPER_4X6
  • PAPER_4X8
  • PAPER_4X9
  • PAPER_4X675
    ค่าเหล่านี้แสดงฉลากการจัดส่งรูปแบบกระดาษทั่วไป
  • PAPER_7X47
  • PAPER_85X11_BOTTOM_HALF_LABEL
  • PAPER_85X11_TOP_HALF_LABEL
  • PAPER_LETTER

หมายเหตุ: หากคุณขอฉลากแบบกระดาษทั่วไป ข้อมูลที่ส่งคืนจะเป็นภาพฉลากที่เข้ารหัส Base64 ซึ่งจะต้องถอดรหัส Base64 ก่อนที่จะแสดงไฟล์ฉลาก

เครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่รองรับ

เครื่องพิมพ์เลเซอร์ส่วนใหญ่รองรับฉลากประเภทนี้ อย่างไรก็ตาม ฉลากจะไม่ได้รับการยอมรับหากพิมพ์บนเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทหมายเหตุ: หากคุณใช้เครื่องพิมพ์เลเซอร์สี ความคมชัดของสีควรตั้งค่าเป็นสีดำ แม้ว่าเครื่องพิมพ์จะติดตั้งเฉพาะตลับหมึกสีดำ

จำนวนฉลากเลเซอร์ที่ต้องใช้ต่อบริการ

ตารางต่อไปนี้ระบุจำนวนฉลากแต่ละประเภทที่จำเป็นสำหรับบริการพิเศษโดยเฉพาะ ฉลากที่จำเป็นทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยการติดต่อไปที่ FedEx Common Label Server (CLS) และ CLS จะส่งคืนมาในบัฟเฟอร์เดียว ยกเว้นฉลากการส่งคืน C.O.D.

จำนวนฉลากแบบเลเซอร์ที่พิมพ์ต่อบริการของสหรัฐฯ

ประเภทบริการ	ฉลากเลเซอร์ - รูปแบบ PDF
FedEx Ground / FedEx Home Delivery U.S.	1 ฉลากการจัดส่ง

จำนวนฉลากแบบเลเซอร์ที่พิมพ์ต่อบริการการส่งออกนอกประเทศของสหรัฐฯ

ประเภทบริการ	ฉลากเลเซอร์ - รูปแบบ PDF
FedEx Express U.S. Export International	1 ฉลากการจัดส่งในการตอบกลับ; ต้องพิมพ์ฉลากอย่างน้อย 3 แผ่น – 1 แผ่นบนบรรจุภัณฑ์และ 2 แผ่นในถุงใส่เอกสาร
FedEx Express U.S. Export International Broker Select	1 ฉลากการจัดส่งในการตอบกลับ; ต้องพิมพ์ฉลากอย่างน้อย 3 แผ่น – 1 แผ่นบนบรรจุภัณฑ์และ 2 แผ่นในถุงใส่เอกสาร
FedEx Ground U.S. Export International	1 ฉลากการจัดส่ง
FedEx Ground U.S. Export International C.O.D.	1 ฉลากการจัดส่ง 2 ฉลากการส่งคืน C.O.D.

จำนวนฉลากแบบเลเซอร์ที่พิมพ์ต่อบริการภายในเม็กซิโก

ประเภทบริการ	ฉลากเลเซอร์ - รูปแบบ PDF
FedEx Express Intra-Mexico	FedEx Express Intra-Mexico การจัดส่งสินค้าที่ไม่ใช่สินค้า DG (สินค้าอันตราย)/น้ำแข็งแห้ง: 1 ฉลากการจัดส่ง

จำนวนฉลากแบบเลเซอร์ที่พิมพ์ต่อบริการภายในแคนาดา

ประเภทบริการ	ฉลากเลเซอร์ - รูปแบบ PDF
FedEx Express Intra-Canada	FedEx Express Intra-Canada การจัดส่งสินค้าที่ไม่ใช่สินค้า DG (สินค้าอันตราย)/น้ำแข็งแห้ง: 1 ฉลากการจัดส่ง
FedEx Ground Intra-Canada	1 ฉลากการจัดส่ง
FedEx Ground Intra-Canada C.O.D.	1 ฉลากการจัดส่ง 2 ฉลากการส่งคืน C.O.D.

จำนวนฉลากแบบเลเซอร์ที่พิมพ์ต่อบริการการส่งออกนอกประเทศของแคนาดา

ประเภทบริการ	ฉลากเลเซอร์ - รูปแบบ PDF
FedEx Express Canada Export International	FedEx Express Canada Export International การจัดส่งสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าอันตราย/น้ำแข็งแห้ง: 1 ฉลากการจัดส่ง 2 ฉลากผู้รับ
FedEx Express Canada Export International Broker Select	FedEx Express Canada Export International Broker Select การจัดส่งสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าอันตราย/น้ำแข็งแห้ง: 1 ฉลากการจัดส่ง 2 ฉลากผู้รับ
FedEx Ground Canada (CA) Export International	1 ฉลากการจัดส่ง

จำนวนฉลากแบบเลเซอร์ที่พิมพ์ต่อบริการการส่งออกนอกประเทศของแคนาดา

ประเภทบริการ	ฉลากเลเซอร์ - รูปแบบ PDF
FedEx Express Canada Export International	FedEx Express Canada Export International การจัดส่งสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าอันตราย/น้ำแข็งแห้ง: 1 ฉลากการจัดส่ง 2 ฉลากผู้รับ
FedEx Express Canada Export International Broker Select	FedEx Express Canada Export International Broker Select การจัดส่งสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าอันตราย/น้ำแข็งแห้ง: 1 ฉลากการจัดส่ง 2 ฉลากผู้รับ
FedEx Ground Canada (CA) Export International	1 ฉลากการจัดส่ง

จำนวนฉลากแบบเลเซอร์ที่พิมพ์ต่อการส่งภายในพื้นที่ฟิลิปปินส์และประเทศไทย

ประเภทบริการ	ฉลากแบบใช้ความร้อน (FedEx CLS จะส่งคืนฉลากตามจำนวนที่เหมาะสมในการตอบกลับ)
การจัดส่งขาเข้าของฟิลิปปินส์	2 ฉลากการจัดส่งพร้อมพิมพ์เลขที่บัญชี 1 ฉลากผู้รับที่ไม่พิมพ์เลขที่บัญชี 3 สำเนาใบกำกับสินค้าพาณิชย์
การจัดส่งสินค้าขาเข้าของไทย	3 ฉลากการจัดส่งพร้อมพิมพ์เลขที่บัญชี 1 ฉลากผู้รับที่ไม่พิมพ์เลขที่บัญชี
การจัดส่งเอกสารขาเข้าของไทย	2 ฉลากการจัดส่งพร้อมพิมพ์เลขที่บัญชี 1 ฉลากผู้รับที่ไม่พิมพ์เลขที่บัญชี

ฉลากที่ปรับแต่งเอง

FedEx อนุญาตให้ปรับแต่งฉลากที่สร้างโดย FedEx ได้ คุณสามารถเพิ่มข้อความที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณและเลือกประเภทของบาร์โค้ด (เครื่องหมาย) ที่ใช้ในเอกสารและฉลากของ FedEx ในส่วนที่ปรับแต่งเองของฉลากแบบใช้ความร้อน

เพื่อสนับสนุนแอปพลิเคชันการจัดส่งของคุณ API สำหรับการจัดส่งพัสดุที่เปิดอยู่ของ FedEx มีตัวเลือกสองทางในการปรับแต่งฉลากการจัดส่งของคุณ:

• วางกราฟิก PNG PAPER 7'' x4.75'' ลงในคลังฉลากของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณอาจสร้างรายการพัสดุภัณฑ์ในแบบฟอร์ม 8-1/2'' x 11'' โดยแบบฟอร์มนี้ คุณยังสามารถวางกราฟิก PNG PAPER ขนาด 7''x 4.75'' แทนการสร้างฉลากแบบปรับแต่งเองได้ด้วยตัวเอง
• เพิ่มไฟล์กราฟิกหรือข้อความลงในฉลากแบบใช้ความร้อนขนาด 4'' x 8'' หรือ 4'' x 9'' ขนาดของฉลากนี้มีพื้นที่ 2 นิ้ว สำหรับกราฟิกหรือข้อความของคุณ

หมายเหตุ: เนื้อหาและบาร์โค้ดของฉลากที่มนุษย์อ่านออกในส่วนทั่วไปของไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

ฉลากตัวตรวจสอบแบบปรับแต่งเอง

คุณสามารถสร้างฉลากแบบปรับแต่งเองที่ไม่ใช่สำหรับการจัดส่งได้ทั้งในระดับบรรจุภัณฑ์และระดับพัสดุที่จัดส่ง โดยระบุข้อมูลที่ปรับแต่งเองที่ต้องการ วิธีจัดรูปแบบข้อมูลนั้นๆ และตำแหน่งที่จะวางบนฉลากแบบปรับแต่งเอง ฉลากแบบปรับแต่งเองถูกจำกัดให้อยู่ในรูปแบบฉลากแบบใช้ความร้อน

ปรับแต่งฉลากแบบใช้ความร้อน

FedEx API มีรูปแบบฉลากแบบใช้ความร้อนสองรูปแบบที่คุณสามารถปรับแต่งด้วยไฟล์กราฟิกหรือข้อความ เพื่อป้องกันความจำเป็นในการสร้างฉลากแบบปรับแต่งเอง ฉลากเหล่านี้รองรับบริการจัดส่งของ FedEx ทั้งหมด รูปแบบเหล่านี้ คือ:

• ฉลากแบบใช้ความร้อนขนาด 4'' x 8'' ที่ไม่มีแท็บเอกสาร
• ฉลากแบบใช้ความร้อนขนาด 4'' x 9'' ที่มีแท็บเอกสาร

ประเภทฉลากเหล่านี้มีส่วนที่สามารถปรับแต่งเองได้สองนิ้ว คุณสมบัตินี้ใช้ได้กับฉลากแบบใช้ความร้อนที่พิมพ์บนเครื่องพิมพ์ระบบความร้อนที่ตั้งค่าไว้ที่ 203 DPI หรือ 300 DPI

กฎสำหรับฉลากแบบปรับแต่งเอง

กฎการใช้รูปแบบฉลาก คือ:

• เฉพาะฉลากการจัดส่งเท่านั้นที่สามารถปรับแต่งได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณพิมพ์ฉลากการจัดส่งด่วนขนาด 4'' x 8'' พร้อมโลโก้ของคุณ ฉลากผู้รับรองลงมาจะไม่แสดงโลโก้นั้น
• กราฟิกหรือข้อความที่ปรับแต่งได้ต้องสูงไม่เกิน 2 นิ้ว และกว้าง 4-1/2 นิ้ว
• จะไม่มีการแก้ไขใดๆ จาก FedEx กราฟิกและ/หรือข้อความจะพิมพ์ตามที่ได้ส่งมาในบริการจัดส่ง
• หากไม่มีข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการพิมพ์กราฟิกและ/หรือข้อความ (เช่น พิกัด X และ Y) ฉลากการจัดส่งที่ถูกต้องจะถูกส่งคืนโดยไม่มีข้อมูลที่ถูกปรับแต่ง คุณต้องยกเลิกการจัดส่งที่แสดงผ่านฉลากนี้หากคุณกำลังสร้างฉลากอื่นที่มีกราฟิกและ/หรือข้อความ
• สำหรับความละเอียดเครื่องพิมพ์ 203 DPI (8 จุด/มม.) ในเรื่องของตำแหน่งบนพิกัด X และ Y จุดแทรกพิกัดคือจุดตัดของขอบด้านบนและด้านซ้ายของฉลากแบบใช้ความร้อนที่มีแท็บเอกสารด้านล่างขนาด 4.00” x 6.75” สำหรับฉลากแบบใช้ความร้อนที่มีแท็บเอกสารด้านบนขนาด 4.00” x 6.75” ให้เพิ่มจุดแทรกพิกัดค่า Y ขึ้น 164 จุด สำหรับฉลากที่ไม่มีแท็บเอกสารขนาด 4.00” x 6.00” ให้เพิ่มจุดแทรกพิกัดค่า Y ขึ้น 8 จุด คุณลักษณะขององค์ประกอบฉลากแบบใช้ความร้อนขึ้นอยู่กับความละเอียดเครื่องพิมพ์ 203 DPI (8 จุด/มม.)
• สำหรับความละเอียดเครื่องพิมพ์ 300 DPI (12 จุด/มม.) ในเรื่องของตำแหน่งบนพิกัด X และ Y จุดแทรกพิกัดคือจุดตัดของขอบด้านบนและด้านซ้ายของฉลากแบบใช้ความร้อนที่มีแท็บเอกสารด้านล่างขนาด 4.00” x 6.75” สำหรับฉลากแบบใช้ความร้อนที่มีแท็บเอกสารด้านบนขนาด 4.00” x 6.75” ให้เพิ่มจุดแทรกพิกัดค่า Y ขึ้น 246 จุด สำหรับฉลากที่ไม่มีแท็บเอกสารขนาด 4.00” x 6.00” ให้เพิ่มจุดแทรกพิกัดค่า Y ขึ้น 12 จุด คุณลักษณะขององค์ประกอบฉลากแบบใช้ความร้อนขึ้นอยู่กับความละเอียดเครื่องพิมพ์ 300 DPI (12 จุด/มม.)
  หมายเหตุ:
  • สำหรับบาร์โค้ด FXD1D ขนาดที่ X (ความกว้างของแถบที่แคบที่สุดของสัญลักษณ์) จะเท่ากับ 15 มม. (3 จุด) สำหรับเครื่องพิมพ์ 203 DPI และ 13.3 มม. (4 จุด) สำหรับเครื่องพิมพ์ 300 DPI
  • สำหรับบาร์โค้ด 2D PDF-417 ขนาดที่ X จะเท่ากับ 10 มม. (2 จุด) สำหรับเครื่องพิมพ์ 203 DPI เพื่อให้ได้ขนาดที่ X ที่เทียบเท่ากับเครื่องพิมพ์ 300 DPI ให้ใช้เป็น 9.00 มม. (3 จุด)
  • ผู้พัฒนาฉลากต้องตรวจสอบคู่มือการเขียนโปรแกรม ZPL เพื่ออ้างอิงลักษณะของแบบอักษรสำหรับบล็อกผู้ส่ง/เบ็ดเตล็ดที่ด้านบนของฉลาก และบล็อกข้อมูลอ้างอิงผู้ส่งที่อยู่ด้านล่างข้อมูลผู้รับซึ่งอยู่ในรูปแบบอักษรขนาดเล็กอย่างละเอียด เพื่อเลือกชุดแบบอักษรที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับความละเอียดหัวพิมพ์ต่างๆ
• จุดแทรกอักขระคือมุมบนซ้ายของอักขระตัวแรกในสตริง ที่เส้นบรรทัดบน
• ข้อจำกัดของเครื่องพิมพ์ต้องการจุดเริ่มต้นที่ตำแหน่งส่วนบนซ้ายของด้านหน้า ดังนั้น เป็นไปได้ที่ข้อมูลจะเริ่มต้นในส่วนที่สามารถปรับแต่งได้ของฉลากและเขียนลงในส่วน FedEx ของฉลาก (ข้อมูลจริงของฉลากแบบใช้ความร้อน) หากเกิดเหตุการณ์นี้ โลโก้หรือข้อความของคุณจะถูกเขียนทับด้วยข้อมูลฉลากของ FedEx คุณต้องแก้ไขการวางตำแหน่งนี้เพื่อใช้ฉลากการจัดส่ง
• การเพิ่มข้อมูลแท็บเอกสารลงในฉลากขนาด 4'' x 9'' ต้องกำหนดค่าโดยใช้กระบวนการเดียวกันกับที่คุณจะใช้สำหรับฉลากแบบใช้ความร้อนที่มีแท็บเอกสารขนาดมาตรฐาน 4'' x 6''

หมายเหตุ: ควรเพิ่มเฉพาะภาพสีแบบหนึ่งบิตเนื่องจากฉลากจะพิมพ์เป็นสีดำและสีขาว

องค์ประกอบรายการกราฟิกของฉลากแบบปรับแต่งเอง

API แสดงภาพ PNG (กราฟิกเครือข่ายแบบพกพา) สำหรับฉลาก FedEx Express และ FedEx Ground กราฟิกฉลากแบบ PNG เป็นแบบถอดของฉลากแบบใช้ความร้อนหรือฉลากแบบกระดาษทั่วไปที่รองรับโดย API ตัวเลือกฉลากนี้ช่วยให้คุณวางกราฟิกฉลากแบบ PNG ลงในคลังฉลากของคุณเพื่อป้องกันความจำเป็นในการสร้างฉลากแบบปรับแต่งเอง

ข้อกำหนดต่อไปนี้จะใช้เมื่อใช้กราฟิก PNG ขนาด 4'' x 6'' ที่ติดอยู่ในเอกสารการจัดส่งของคุณ:

• คลังฉลาก
• เครื่องพิมพ์
• การปรับขนาด

คลังฉลาก

ควรใช้ฉลาก PNG ขนาด 4'' x 6'' กับคลังฉลากแบบลอกและติดเท่านั้น ทีมรับรองฉลากของ FedEx Ground และ FedEx Express จะปฏิเสธฉลาก PNG ขนาด 4'' x 6'' ที่ไม่ได้อยู่ในคลังฉลากแบบลอกและติด รวมถึงฉลากใดๆ ที่พิมพ์บนกระดาษทั่วไป

เครื่องพิมพ์

แนะนำให้ใช้เครื่องพิมพ์เลเซอร์สำหรับการพิมพ์ฉลาก ไม่ควรใช้เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเนื่องจากความไม่สม่ำเสมอกันในการสร้างบาร์โค้ดที่สแกนได้ ไม่สามารถพิมพ์ฉลาก PNG ขนาด 4'' x 6'' โดยใช้เครื่องพิมพ์สีได้ ยกเว้นในกรณีที่ตั้งค่าความคมชัดของสีเป็นสีดำ แม้ว่าเครื่องพิมพ์จะติดตั้งเฉพาะตลับหมึกสีดำก็ตาม การตั้งค่านี้จำเป็นเพื่อให้ได้ความคมชัดของบาร์โค้ดที่ถูกต้องสำหรับการสแกนที่ศูนย์ของ FedEx

การปรับขนาด

รูปภาพที่ส่งคืนในธุรกรรมการจัดส่งของคุณมีค่า 200 จุดต่อนิ้ว (DPI) และมีขนาด 4'' (กว้าง) x 6'' (สูง) หรือ 800 x 1200 พิกเซล ฉลากนี้มีการจัดวางแนวตั้งและออกแบบมาเพื่อพิมพ์ในพื้นที่ฉลาก 4'' x 6'' เมื่อพิมพ์ออกมาแล้ว ฉลากควรมีขนาด 4''x 6''

ในการผลิตฉลากและบาร์โค้ดตาม DPI ที่ต้องการ คุณต้องปรับสเกล (หรือปรับขนาด) รูปภาพก่อนพิมพ์ วิธีที่คุณปรับสเกลภาพขึ้นอยู่กับแอปพลิเคชันที่คุณกำลังใช้เพื่อดูและพิมพ์ฉลาก ในการปรับสเกลรูปภาพ PNG สำหรับฉลากขนาด 4'' x 6'' เป็นนิ้ว: ให้ใช้ความกว้าง 4'' และความยาว 6'' แบบพอดี

รายการการตรวจสอบฉลาก

บาร์โค้ดทั้งหมด

จำเป็นสำหรับการตรวจสอบความถูกต้อง:

• พื้นที่ขอบ: ต้องมีช่องว่างสีขาวอย่างน้อย 0.1'' ทั้งด้านบนและด้านล่างของบาร์โค้ดเสมอ
• พื้นที่ขอบ: ต้องมีช่องว่างสีขาวอย่างน้อย 0.2'' ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของบาร์โค้ดเสมอ
• ตรวจสอบให้ถูกต้องว่าบาร์โค้ดทั้งหมดตรงตามข้อกำหนดความสูงขั้นต่ำ

คุณภาพของการพิมพ์

ปัญหาทั่วไปที่ทำให้ฉลากถูกปฏิเสธ:

• แยกแถบ
• การพิมพ์สีซีด/วอยด์สีขาว
• ทำวอยด์สีขาวซ้ำ (ปัญหาของลูกกลิ้ง)
• รอยเปื้อน (การถ่ายเทความร้อน)
• การหลุดลอก (เลเซอร์) แสดงให้เห็นถึงปัญหาของการประสานโทนเนอร์
• รอยยับในการพิมพ์ (การถ่ายเทความร้อน)
• ความคมชัดของการพิมพ์สำหรับฉลากแบบใช้ความร้อนโดยตรงต้องมีอย่างน้อย 90%

รายละเอียดที่มนุษย์อ่านออกสำหรับฉลาก Ground

สำหรับฉลากที่มนุษย์อ่านออกของ FedEx Ground จำเป็นต้องมีสิ่งต่อไปนี้สำหรับการตรวจสอบความถูกต้อง:

• ข้อมูลตรงกับบาร์โค้ด
• โลโก้ของ FedEx Ground: ดาวน์โหลดโลโก้ได้จากเว็บไซต์ FedEx Identity fedex.com
• โลโก้ของ FedEx Home Delivery: ฉลากต้องมีตัว “H” ขนาดใหญ่ในกล่องภายในรัศมี 1' ของที่อยู่ในการจัดส่ง ตัว “H” ต้องมีขนาดอย่างน้อย .25'' x .70''
• ลักษณะการบริการ
• ข้อมูลผู้ส่ง
• ข้อมูลผู้รับ
• รหัสไปรษณีย์และเส้นทาง
• วันที่ส่งพัสดุ
• น้ำหนักจริง
• ข้อมูลอุปกรณ์อัตโนมัติของลูกค้า (อุปกรณ์วัด แอปพลิเคชัน/ระบบ เวอร์ชัน)
• ขนาด
• ข้อมูลอ้างอิงเบ็ดเตล็ด
• หมายเลขการติดตามและ ID ฟอร์ม (หมายเลขติดตามต้องเป็นตัวเลข 14 หลัก)
• ID ลานจอดเครื่องบินของสนามบิน
• รหัสไปรษณีย์

รายละเอียดที่มนุษย์อ่านออกสำหรับฉลาก Express

ต้องพิมพ์องค์ประกอบต่อไปนี้บนฉลากเพื่อผ่านการรับรอง:

• โลโก้ของ FedEx Express: ดาวน์โหลดโลโก้ได้จากเว็บไซต์ FedEx Identity fedex.com
• ลักษณะการบริการ
• ประเภทบรรจุภัณฑ์ หากจัดส่งระหว่างประเทศ
• วันที่จัดส่งประจำสัปดาห์ (เช่น จ. แทนวันจันทร์)
• ส่งตามวันที่
• หมายเลขอุปกรณ์วัด
• วันที่ส่งพัสดุ
• รูปแบบจำนวนชิ้น, การใช้คำฟุ่มเฟือยบนฉลากหลัก, การใช้คำฟุ่มเฟือยของฉลาก CRN บน MPS ทั้งหมด
• ID ลานจอดเครื่องบินของสนามบิน
• รหัสไปรษณีย์และเส้นทาง
• คำนำหน้าและคำต่อท้ายของการกำหนดเส้นทาง URSA
• รหัสการจัดการ
• การยืนยันพื้นที่ในการบริการ
• หมายเลขโทรศัพท์ของผู้รับและผู้ส่งพัสดุ
• น้ำหนัก
• น้ำหนักที่คำนวณตามขนาดบรรจุภัณฑ์ หากมี
• ฟิลด์อ้างอิงหากจัดส่งแอลกอฮอล์
• หมายเลขการติดตามและ ID ฟอร์ม (หมายเลขติดตามต้องเป็นตัวเลข 14 หลัก)
• ในฉลาก ASTRA หมายเลขการติดตาม 12 หลัก จะอยู่ที่ตำแหน่ง 17 ถึง 28 ของบาร์โค้ด 32 อักขระ ในบาร์โค้ด FDX 1D แบบใหม่ หมายเลขการติดตามอยู่ที่ตำแหน่ง 21 ถึง 34 หมายเลขการติดตามของ FedEx Express จะยังคงเป็นตัวเลข 12 หลัก เลขศูนย์จะอยู่ในสองตำแหน่งด้านหน้า

กฎต่อไปนี้ใช้กับ API การส่งพัสดุที่เปิดอยู่:

• การส่งพัสดุที่เปิดอยู่สามารถสร้างและยืนยันด้วยบรรจุภัณฑ์ชิ้นเดียวได้
• โปรดทราบ: การส่งพัสดุที่เปิดอยู่จะถูกล้างออกจากระบบถ้าไม่ได้ยืนยันการส่งภายในวันห้าหลังจากการสร้างการจัดส่ง
• เมื่อยืนยันการส่งแล้วจะไม่สามารถเพิ่มบรรจุภัณฑ์ไปที่การส่งพัสดุที่เปิดอยู่ได้อีก