เริ่มต้นใช้งาน
FedEx Developer Portal มีชุดอินเทอร์เฟซการตั้งโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) ให้ใช้งาน เพื่อรวมระบบ FedEx กับแอปพลิเคชันของคุณ คำแนะนำเหล่านี้จะเป็นตัวแนะนำคุณในการสร้างองค์กร สร้างโครงการ ทดสอบการรวมระบบ ย้ายโครงการไปสู่การใช้งานจริง และตรวจสอบ API ของคุณได้ในบางกรณี
ประเภทของผู้ใช้:
FedEx มีบริการรวมระบบให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้สามประเภท ได้แก่ ผู้ส่งกับ FedEx, ผู้ให้บริการ FedEx Compatible ซึ่งเป็นโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ผ่านการตรวจสอบ และผู้ให้บริการ FedEx Integrator
ผู้ส่งกับ FedEx:
บริษัทที่จัดส่งกับ FedEx และต้องการรวมระบบ FedEx APIs เข้ากับแอปพลิเคชันของตนเอง
โซลูชันหรือผู้ให้บริการ:
บริษัทที่ต้องการผสานรวม FedEx API เพื่อสร้างโซลูชัน แอปพลิเคชัน หรือปลั๊กอินที่สามารถนำไปวางขายและ/หรือจัดจำหน่ายให้องค์กรภายนอกที่จัดส่งกับ FedEx ได้
- ผู้ให้บริการ FedEx Compatible: คือบริษัทที่ผ่านการตรวจสอบพร้อมทำข้อตกลงสัญญาผ่าน โปรแกรม FedEx Compatible
- ผู้ให้บริการ FedEx Integrator: บริษัทที่ผ่านการตรวจสอบพร้อมทำข้อตกลงสัญญาผ่านโปรแกรม FedEx Integrator
เลือกตัวเลือกด้านล่างที่ตรงกับธุรกิจของคุณมากที่สุด เรามีการแนะนำประสบการณ์เริ่มต้นใช้งานให้คุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้ประเภทใดก็ตาม
ทำการเลือกเพื่อเริ่มต้นใช้งาน
หากบริษัทของคุณยังไม่มีองค์กร ให้สร้างใหม่ หรือเข้าร่วมองค์กรที่มีอยู่แล้ว
สร้างองค์กรใหม่
ในแถบนำทาง ให้คลิก “สร้าง” หรือเข้าร่วมองค์กร
หมายเหตุ: ในฐานะผู้สร้าง ระบบจะกำหนดให้คุณเป็นผู้ดูแลระบบองค์กรโดยอัตโนมัติ
ผู้ดูแลระบบสามารถ:
เชิญผู้ใช้เข้าร่วม
กำหนดบทบาทผู้ใช้ (เช่น ผู้สนับสนุนหรือผู้ชม) และโครงการ
จัดการบัญชีการจัดส่ง
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทเหล่านี้ได้ในคู่มือการดูแลระบบองค์กรของเรา
สำหรับประเภทบริษัท ให้เลือก “ขายหรือมอบโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ใช้เทคโนโลยี FedEx และเป็นผู้ให้บริการ FedEx Integrator ที่ผ่านการตรวจสอบ”
ระบุชื่อบริษัท, URL เว็บไซต์ และชื่อองค์กรเฉพาะของคุณ โดยชื่อองค์กรอาจตรงกับชื่อบริษัทของคุณ หรือสื่อถึงกลุ่มเฉพาะ (แผนก ส่วนงาน ภูมิภาค ตำแหน่งที่ตั้ง) ข้อมูลนี้จำเป็นต่อการตรวจสอบคำขอของคุณ
หมายเหตุ: เลือกชื่อองค์กรที่ผู้ใช้คนอื่นๆ ทั้งหมดจะจดจำได้ (เช่น ชื่อบริษัท แผนก ภูมิภาค ตำแหน่งที่ตั้ง)
ระบุตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทและสถานที่วางขายหรือจัดจำหน่ายโซลูชันซอฟต์แวร์ของคุณ
เพิ่มบัญชีการเรียกเก็บเงินและตรวจสอบยืนยันบัญชีการเรียกเก็บเงิน
หมายเหตุ: ในฐานะผู้ให้บริการด้านการจัดส่งและโลจิสติกส์ในโปรแกรม FedEx Integrator คุณต้องใช้หมายเลขบัญชีของคุณเอง คุณไม่สามารถใช้บัญชี FedEx ของลูกค้าได้
ระบุหมายเลขบัญชี FedEx ของคุณ หากคุณยังไม่มีบัญชี FedEx เปิดบัญชีใหม่ที่ fedex.com หรือติดต่อตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าของ FedEx
ระบุชื่อย่อของบัญชีและที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงินที่เชื่อมโยงกับบัญชี แล้วเลือก “ถัดไป”
หมายเหตุ: ที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงินต้องตรงกับข้อมูลที่เราบันทึกไว้สำหรับบัญชีนี้ ซึ่งจะเป็นบัญชีการเรียกเก็บเงินเริ่มต้นสำหรับองค์กรของคุณ
เพื่อให้การสร้างองค์กรของคุณเสร็จสิ้น คุณต้องตรวจสอบยืนยันบัญชีของคุณ เลือกตัวเลือกการตรวจสอบยืนยัน (โทรศัพท์ใช้ได้เฉพาะกับผู้ให้บริการแบบครบวงจรในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น อีเมล และข้อความ) แล้วเลือก “ถัดไป”
เมื่อได้รับแล้ว ให้ป้อนรหัสตรวจสอบยืนยันและเลือก “ส่ง”
ยอมรับข้อกำหนด
อ่านข้อตกลงผู้ให้บริการแบบครบวงจรระดับสากลและคู่มือโปรแกรม ทำเครื่องหมายถูกที่ช่องเพื่อยืนยันว่าคุณยอมรับข้อกำหนด จากนั้นเลือก “ยอมรับ”
หน้าจอยืนยันจะปรากฏขึ้น คลิก “จัดการองค์กร” เพื่อแก้ไขรายละเอียด หากจำเป็น
เชิญผู้ใช้
หมายเหตุ: เฉพาะผู้ดูแลระบบเท่านั้นที่สามารถเชิญผู้ใช้ได้
เลือก “จัดการองค์กร” จากเมนูนำทางด้านซ้ายมือ
ไปที่แท็บผู้ใช้ แล้วเลือก “เพิ่มผู้ใช้”
กรอกแบบฟอร์มและกำหนดบทบาทที่เหมาะสมให้กับผู้ใช้ใหม่ ได้แก่ ผู้ชม ผู้สนับสนุน หรือผู้ดูแลระบบ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทผู้ใช้ได้ในคู่มือการดูแลระบบองค์กร
กำหนดผู้ใช้ให้กับโครงการ (ถ้ามี) ภายใต้เมนูดร็อปดาวน์ของโครงการ
ระบุที่อยู่อีเมลของผู้ใช้แต่ละราย จากนั้นเลือก “เชิญ”
เข้าร่วมองค์กรที่มีอยู่
ขอคำเชิญ: ขอให้ผู้ดูแลระบบองค์กรส่งคำเชิญถึงคุณ คุณมีเวลา 24 ชั่วโมงในการตอบรับก่อนที่คำเชิญจะหมดอายุ หากจำเป็น ขอให้ผู้ดูแลระบบส่งคำเชิญอีกครั้ง
ตอบรับคำเชิญ: เข้าสู่ระบบด้วย ID ผู้ใช้และรหัสผ่านที่มีอยู่แล้วของคุณ หาก ID ของคุณเชื่อมโยงกับองค์กรอื่นอยู่แล้ว คุณต้องสร้างใหม่
เข้าร่วมองค์กรที่มีอยู่
ขั้นตอนที่ 1: ขอให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรของคุณส่งคำเชิญให้คุณ
หากบริษัทของคุณสร้างองค์กรไว้แล้ว คุณสามารถขอให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรนั้นส่งคำเชิญเข้าร่วมให้กับคุณ คุณจะมีเวลา 24 ชั่วโมงในการตอบรับคำเชิญ แต่ถ้าหากคุณไม่สามารถตอบรับคำเชิญได้ทันตามกรอบเวลาดังกล่าว คุณสามารถขอให้ผู้ดูแลระบบส่งคำเชิญใหม่อีกครั้งได้เสมอ
ขั้นตอนที่ 2: ยอมรับคำเชิญ
ในการตอบรับคำเชิญ คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบด้วย ID ผู้ใช้และรหัสผ่านที่มีอยู่แล้วของคุณ หรือหาก ID ผู้ใช้ที่มีอยู่แล้วนั้นเชื่อมโยงกับองค์กรอื่นแล้ว คุณต้องสร้างใหม่
สร้างโครงการ API
ไปที่หน้า โครงการของฉัน และเปิดแท็บ API คลิกที่ปุ่ม สร้าง API โครงการ
ขั้นตอนที่ 1: เลือก API ที่คุณต้องการรวมไว้ในโครงการของคุณ
ตรวจสอบโควตา API ขีดจำกัดอัตรา และรายละเอียดการตรวจสอบ API
ขั้นตอนที่ 2: กำหนดค่ารายละเอียดโครงการ
- ตั้งชื่อโครงการ โดยเป็นชื่อที่สามารถบ่งชี้ตัวตนได้และไม่ซ้ำกับชื่อโครงการอื่นขององค์กร
- เลือกประเทศที่คุณวางแผนจะจัดส่งไปเพื่อที่เราจะสามารถกำหนดบัญชีทดสอบให้คุณได้ เพื่อทดสอบการจัดส่งพัสดุภายในประเทศในสหภาพยุโรป คุณต้องดำเนินการทดสอบแยกเป็นแต่ละประเทศ โดยคุณสามารถเพิ่ม/ลบประเทศได้ในภายหลัง
- หากต้องการรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการอัปเดต API ล่าสุดและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการหยุดทำงาน โปรดตั้งค่าการแจ้งเตือนของคุณ
ขั้นตอนที่ 3: อ่านและยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งรวมถึงข้อตกลงการอนุญาตใช้สิทธิ์สำหรับ FedEx Developer Portal
เมื่อคุณยอมรับเงื่อนไขต่างๆ และคลิกปุ่มสร้างเรียบร้อยแล้ว คุณจะเห็นหน้าจอยืนยัน จากนั้น คุณจะสามารถดูข้อมูลประจำตัวสำหรับทดสอบภายในโครงการใหม่ของคุณได้
สร้างโครงการเว็บฮุค
สร้าง URL (การเรียกกลับ) ที่ถูกต้องในแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มปลายทางของคุณ
URL ปลายทางของคุณจะมีไว้เพื่อรับรหัสและข้อความรับรอง รวมถึงการแจ้งเตือนเว็บฮุคสถานะเพย์โหลดจาก FedEx URL ของคุณต้องใช้ HTTPS เพื่อรับประกันความปลอดภัย URL ของคุณจะถูกบล็อกหากประกอบด้วย:
- ที่อยู่ IP RFC1918
- fedex.com หรือโดเมนย่อยใดๆ
- ที่อยู่ IP ใน URL (รวมถึง localhost, 127.0.0.1)
สร้างโทเค็นรักษาความปลอดภัย
โทเค็นรักษาความปลอดภัยนี้สามารถใช้เป็นรหัสลับในการรับรองและตรวจสอบข้อมูลที่ส่งผ่านระหว่างองค์กรของคุณและ FedEx โทเค็นรักษาความปลอดภัยของคุณต้องประกอบด้วย:
- อักขระต่ำสุด 26 ตัวและสูงสุด 100 ตัว
- อักขระตัวพิมพ์ใหญ่ 1 ตัว
- อักขระตัวพิมพ์เล็ก 1 ตัว
- อักขระตัวเลข 1 ตัว
เช่น: Y1F6OiVUQW2JPSElmRE9U0IY5
หลังจากกำหนด URL และโทเค็นรักษาความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว คุณก็พร้อมที่จะสร้างโครงการเว็บฮุค ไปที่หน้า โครงการของฉัน และเปิดแท็บ เว็บฮุค คลิกที่ปุ่ม สร้างโครงการเว็บฮุค
เลือกประเภทการสมัครรับข้อมูล
ผู้ส่งกับ FedEx สามารถสมัครรับข้อมูลกิจกรรมสำหรับหมายเลขบัญชีหรือหมายเลขการติดตามได้
ขั้นตอนที่ 1: ยืนยันบัญชีการเรียกเก็บเงินและเลือกคุณสมบัติของคุณ
- ตรวจสอบบัญชีการเรียกเก็บเงินพื้นฐานที่กำหนดเพื่อยืนยันหรือเลือกบัญชีอื่นขององค์กรของคุณ
- กำหนดค่าโครงการของคุณโดยการเลือกคุณสมบัติ เช่น หลักฐานการส่งมอบ ตัวเลือกการจัดส่งโดยประมาณ การติดตามกิจกรรม และตัวกรองที่เกี่ยวกับกิจกรรม
ขั้นตอนที่ 2: ป้อนรายละเอียดโครงการ
- ตั้งชื่อโครงการ โดยเป็นชื่อที่สามารถบ่งชี้ตัวตนได้และไม่ซ้ำกับชื่อโครงการอื่นขององค์กร
- ป้อน URL ปลายทางและรายละเอียดโทเค็นรักษาความปลอดภัยที่คุณสร้างระหว่างการรับรองการตั้งค่าล่วงหน้า (ดูขั้นตอนจากด้านบน)
- หากต้องการรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการอัปเดตเว็บฮุคล่าสุดและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการหยุดทำงาน โปรดป้อนที่อยู่อีเมลและภาษาที่ต้องการ
ขั้นตอนที่ 3: อ่านและยอมรับเงื่อนไข
เมื่อคุณยอมรับเงื่อนไขต่างๆ รวมถึงข้อตกลงการอนุญาตใช้สิทธิ์สำหรับ FedEx Developer Portal คำสั่งการกำหนดราคา และคลิกปุ่มสร้างเรียบร้อยแล้ว คุณจะเห็นหน้าจอยืนยัน
อาจมีขั้นตอนเพิ่มเติมที่ต้องดำเนินการตามประเภทการสมัครรับข้อมูลที่เลือกไว้ โปรดไปที่ เอกสาร เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
ที่หน้า ภาพรวมโครงการ API คุณสามารถรับข้อมูลประจำตัวสำหรับใช้งานจริง ได้แก่— รหัส API รหัสลับ และบัญชีการจัดส่ง — ได้จากแท็บ รหัสทดสอบ
ขั้นตอนที่ 1: ร้องขอโทเค็นการเข้าถึง OAuth
จำเป็นต้องใช้โทเค็นการเข้าถึง OAuth ในการทำรายการ API แต่ละรายการ โทเค็นมีอายุการใช้งานเพียง 1 ชั่วโมง ดังนั้น คุณจำเป็นต้องเขียนรหัสด้วยโปรแกรมสำหรับแอปพลิเคชันของคุณเพื่อรีเฟรชโทเค็นก่อนที่เซสชันจะหมดอายุ หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่ เอกสารการให้สิทธิ์อนุญาต API
ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบเอกสาร API
คลิกที่เอกสารของ API แต่ละตัวเพื่ออ่านบริบททางธุรกิจและทำความเข้าใจวิธีใช้ API เข้าสู่ระบบเพื่อดาวน์โหลดคอลเล็กชัน JSON API โดยกดที่ปุ่มด้านบนสุดของหน้าเอกสาร คุณยังสามารถตรวจสอบคำขอตัวอย่างสำหรับปลายทางที่ตรงกับการผสานรวมที่คุณต้องการได้อีกด้วย
ขั้นตอนที่ 3: ใช้แซนด์บ็อกซ์เพื่อทดสอบตัวอย่างการทำรายการ
คลิกที่ปลายทางที่ต้องการตรงการนำทางด้านซ้ายเพื่อไปยังแซนด์บ็อกซ์นั้นๆ ระบุคำขอตัวอย่างที่ตรงกับกรณีการใช้งานของคุณ จากนั้นใช้ข้อมูลประจำตัวสำหรับใช้งานจริงและ URL ทดสอบของ FedEx เพื่อดำเนินการเรียกใช้ไปยังปลายทางตามที่ระบุไว้ในคำขอตัวอย่าง ตรวจสอบว่าการตอบกลับการเรียกใช้ API ที่ได้รับนั้นตรงกับตัวอย่างที่แสดงในเอกสาร เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์การทดสอบได้ใน คู่มือการจำลองเสมือนระบบแซนด์บ็อกซ์
การทดสอบกับเว็บฮุค
การทดสอบสามารถช่วยให้คุณเข้าใจได้ดีขึ้นว่า URL ที่คุณสร้างนั้นถูกต้องหรือไม่ และช่วยให้ FedEx สามารถระบุ URL ของคุณและสร้างการเชื่อมต่อกับ URL ของคุณเพื่อส่งข้อมูลได้ การทดสอบยังสามารถระบุตัวอย่างข้อมูลการทดสอบที่สามารถช่วยคุณตรวจสอบและยืนยันว่าคุณสามารถประมวลผลข้อมูลการติดตามที่ให้ไว้ในแอปพลิเคชันของคุณได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม การทดสอบไม่ใช่การรับรอง URL ของคุณ ไปที่ เอกสารเว็บฮุค ของเราเพื่อเรียนรู้วิธีทดสอบ URL ของเว็บฮุค
ไปที่หน้า ภาพรวมโครงการ และเปิดแท็บ รหัสสำหรับใช้งานจริง โครงการที่มีการสมัครรับข้อมูลการติดตามสถานะแบบรวมระบบขั้นสูงที่อิงจากหมายเลขบัญชี ไม่จำเป็นต้องย้ายไปสู่การใช้งานจริง
ขั้นตอนที่ 1: กำหนดค่าโครงการ
- สามารถเปลี่ยนชื่อรหัสของคุณได้ตามต้องการ
- ตรวจสอบหมายเลขบัญชีที่คุณเลือกในขั้นตอนที่ 1 ของขั้นตอนการสร้างโครงการ ซึ่งใช้เพื่อย้ายโครงการของคุณไปใช้งานในระบบจริง เมื่อโครงการของคุณอยู่ในระบบจริงแล้ว คุณสามารถเพิ่มบัญชีเพิ่มเติมได้ตามต้องการ
ขั้นตอนที่ 2: รับรหัสโครงการ
คัดลอกรหัส API และรหัสลับสำหรับใช้งานจริงไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อให้รหัสลับสำหรับใช้งานจริงของคุณปลอดภัย เราจะแสดงรหัสครั้งเดียวเท่านั้น หากคุณลืมรหัสลับ คุณสามารถสร้างรหัสชุดใหม่ได้
หลังจากได้รหัสโครงการและคลิกที่ ถัดไป คุณจะเห็นรายละเอียดโครงการของคุณในแท็บ รหัสสำหรับใช้งานจริง
- หากต้องการเพิ่มบัญชีการจัดส่งไปยังโครงการของคุณ ให้คลิกที่ แก้ไข ด้านบนของตารางบัญชีการจัดส่ง
API บางส่วนต้องมีการตรวจสอบฉลากการจัดส่งเพื่อใช้ในระบบใช้งานจริงของเรา ตรวจสอบว่า API ของคุณจำเป็นต้องมีการตรวจสอบหรือไม่
ขั้นตอนที่ 1: พัฒนาและทดสอบ API ของ FedEx ด้วยแอปพลิเคชันที่ใช้งานบนเว็บของคุณ
เมื่อคุณพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้งานบนเว็บเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะทำการทดสอบให้เสร็จสมบูรณ์โดยใช้ข้อมูลประจำตัวสำหรับทดสอบ (บัญชีการจัดส่งสำหรับทดสอบ รหัส API และรหัสลับ) รหัส API สำหรับทดสอบและรหัสลับของคุณจะปรากฏในหน้า ภาพรวมโครงการ ซึ่งสามารถดูได้ทุกเมื่อ
ขั้นตอนที่ 2: ย้ายโครงการของคุณให้ใช้งานในระบบจริง
หลังจากทดสอบกับ API ของ FedEx แล้ว คุณจะต้องเริ่มดำเนินกระบวนการตรวจสอบโดยการย้ายโครงการของคุณให้ใช้งานในระบบจริงบน FedEx Developer Portal เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว คุณจะเห็นรหัส API สำหรับใช้งานจริงและรหัสลับของคุณ โดยที่คุณจะเห็นรหัสลับสำหรับใช้งานจริงเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ คุณสามารถสร้างรหัสใหม่ได้ในภายหลัง
ขั้นตอนที่ 3: กรอกข้อมูลบนฉลากปะหน้า
กรอกข้อมูลบน ฉลากปะหน้า พร้อมข้อมูลการติดต่อที่เหมาะสมและบริการที่คุณวางแผนที่จะใช้ รวมถึงหมายเลขบัญชีและรหัสสำหรับใช้งานจริงของคุณ
ขั้นตอนที่ 4: สร้างฉลากทดสอบและส่งไปยังกลุ่มวิเคราะห์บาร์โค้ด
สร้างฉลากทดสอบในระบบทดสอบของ FedEx ที่เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชัน จากนั้น ส่งฉลากทดสอบไปยังทีมประเมินฉลากของ FedEx เพื่อขออนุมัติ กลุ่มวิเคราะห์บาร์โค้ดต้องใช้เวลาในการประเมินฉลากโดยมีช่วงเวลาแล้วเสร็จคือสามวันทำการ
ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าในการประมวลผล:
- ต้องพิมพ์และสแกนฉลากที่ความละเอียดขั้นต่ำ 600 DPI ห้ามส่งไฟล์ที่สร้างโดย API
- สำหรับเครื่องพิมพ์ความร้อน จำเป็นต้องใช้ประเภทภาพฉลากตามด้วยรุ่นเครื่องพิมพ์ ตัวอย่าง: ZPLII สำหรับเครื่องพิมพ์ Zebra
- ให้ใช้ข้อมูลที่อยู่ของผู้จัดส่งและผู้รับเมื่อสร้างฉลากตัวอย่างสำหรับการประเมินผล โดยสร้างฉลากตัวอย่างสำหรับบริการเฉพาะที่ใช้งานเท่านั้น
- ฉลากเก็บเงินปลายทาง (C.O.D.) ของ FedEx® ต้องประกอบด้วยฉลากการส่งคืนของ C.O.D. ที่เกี่ยวข้อง
- การจัดส่งของ FedEx International Express® ต้องประกอบด้วยฉลากใบตราส่งสินค้าทางอากาศ (AWB) สำรอง/ลำดับรอง
- การจัดส่งพัสดุหลายชิ้น (MPS) ต้องประกอบด้วยหนึ่งฉลากต่อหนึ่งบรรจุภัณฑ์ในการจัดส่ง
- ส่ง PDF และฉลากปะหน้าผ่านทางอีเมลไปยัง label@fedex.com
- แผ่นฉลากอาจถูกส่งไปยังที่อยู่ตามด้านล่างนี้:
บริการของ FedEx
การทดสอบโซลูชันธุรกิจ WTC
10 FedEx Parkway
ชั้นที่ 2 ตามแนวนอน
Collierville, TN 38017
หากฉลากแบบสแกนไม่มีข้อบกพร่องที่มองเห็นได้ชัดเจน (เช่น มีเส้นพาดผ่านแถบบาร์โค้ด มีหยดหมึก หรือมีความเสียหายทางกายภาพ) ฉลากนั้นอาจผ่านการตรวจสอบและได้รับการอนุมัติ
ในกรณีที่ส่งเป็นแผ่นฉลาก ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพการพิมพ์และการย่อ/ขยายฉลากโดยไม่คาดคิด (เช่น การปรับขนาด) นี่คือสองเหตุผลแรกที่ว่าทำไมฉลากไม่ผ่านกระบวนการประเมินฉลาก
ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบการประเมินฉลาก
กลุ่มวิเคราะห์บาร์โค้ดจะประเมินฉลากทดสอบที่ส่งมาและทำการอนุมัติหรือปฏิเสธฉลาก จากนั้น กลุ่มวิเคราะห์บาร์โค้ดจะติดต่อคุณโดยแจ้งให้ทราบว่าฉลากที่ส่งมานั้นผ่านการอนุมัติหรือถูกปฏิเสธ หากฉลากได้รับการอนุมัติ ให้ดำเนินการต่อในขั้นตอนถัดไป หากฉลากถูกปฏิเสธ ให้แก้ไขฉลากตามคำแนะนำและส่งอีกครั้งเพื่อขออนุมัติ
ขั้นตอนที่ 6: เปิดใช้งานแอปพลิเคชัน
เมื่อกลุ่มวิเคราะห์บาร์โค้ดได้อนุมัติฉลากทดสอบสำหรับสถานะในระบบใช้งานจริงแล้ว ข้อมูลประจำตัวสำหรับใช้งานจริงของคุณจะได้รับอนุญาตให้สามารถส่งธุรกรรมของฉลากการจัดส่งที่ระบุ และพวกเขาจะแจ้งให้คุณทราบว่าการตรวจสอบเป็นผลสำเร็จผ่านทางอีเมล การอนุมัติของคุณนั้นขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ของแต่ละโครงการ
ขั้นตอนที่ 7: แทนที่ URL และข้อมูลประจำตัว
ใช้ URL และข้อมูลประจำตัวสำหรับใช้งานจริงแทนที่ URL และข้อมูลประจำตัวสำหรับทดสอบ ทดสอบการใช้งานของคุณใหม่อีกครั้งในระบบใช้งานจริงโดยใช้ข้อมูลตัวอย่าง
ขั้นตอนที่ 1: ได้รับคำเชิญเพื่อเข้าร่วมองค์กร
FedEx จะสร้างองค์กรและจากนั้นจะเชิญสมาชิกทีมหนึ่งคนเข้าร่วมองค์กร โดยผู้ใช้รายนี้จะถูกกำหนดให้เป็นผู้ดูแลระบบสำหรับองค์กรของคุณ
ขั้นตอนที่ 2: ยอมรับคำเชิญ
ในการตอบรับคำเชิญ คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบด้วย ID ผู้ใช้และรหัสผ่านที่มีอยู่แล้วของคุณ หรือหาก ID ผู้ใช้ที่มีอยู่แล้วนั้นเชื่อมโยงกับองค์กรอื่นแล้ว คุณต้องสร้างใหม่
ขั้นตอนที่ 3: เชิญผู้ใช้
ผู้ดูแลระบบสามารถเชิญผู้ใช้ให้เข้าร่วมองค์กร และกำหนดบทบาทและโครงการให้กับผู้ใช้ได้ เปิดแท็บผู้ใช้ คลิกที่ปุ่มเพิ่มผู้ใช้
- เลือกบทบาทของผู้ใช้: ผู้ชม ผู้มีส่วนร่วม หรือผู้ดูแลระบบ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทเหล่านี้ใน คู่มือการดูแลระบบขององค์กร ของเรา
- หากคุณมีโครงการอยู่ ให้กำหนดโครงการสำหรับผู้ใช้ คุณยังสามารถกำหนดผู้ใช้ไปยังโครงการต่างๆ ในหน้าภาพรวมโครงการได้อีกด้วย
- ป้อนที่อยู่อีเมลของผู้ใช้ที่คุณต้องการให้เข้าร่วมองค์กรตรงบทบาทที่เลือก
ไปที่ แคตตาล็อก API เพื่อกำหนด API หรือเว็บฮุคที่เหมาะสมสำหรับโซลูชันของคุณ ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีลูกค้าของ FedEx (CTC) และผู้จัดการ Compatible Channel ของคุณสามารถช่วยเลือก API ที่เหมาะสมสำหรับโซลูชันตามความต้องการทางธุรกิจของคุณ
ขั้นตอนที่ 1: กรอกข้อมูล PIW
กลับไปยังชุมชนของผู้ให้บริการ Compatible (CPC) เพื่อกรอกตารางข้อมูลผลิตภัณฑ์ (PIW)
ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบโครงการที่ FedEx สร้างขึ้น
เมื่อ PIW ได้รับการอนุมัติแล้ว FedEx จะสร้างโครงการของคุณ เวอร์ชันแต่ละตัวของแต่ละโซลูชันของคุณจะมีโครงการแยกกันอยู่ใน FedEx Developer Portal
ขั้นตอนที่ 3: เข้าร่วมการสาธิต API กับทีมของคุณ
ทีม FedEx Compatible พร้อมกับ FedEx CTC และทีมตรวจสอบยืนยันจะจัดการสาธิตทางเทคนิคสำหรับ API ร่วมกับทีมของคุณ ซึ่งทีมของ FedEx จะสนทนาเรื่องการตรวจสอบยืนยันโปรแกรม Compatible คุณสมบัติและการใช้งานรูปแบบใหม่ของ API และตอบข้อสงสัยต่างๆ
ที่หน้า ภาพรวมโครงการ API คุณสามารถรับข้อมูลประจำตัวสำหรับใช้งานจริง ได้แก่— รหัส API และรหัสลับ — ได้จากแท็บ รหัสทดสอบ
ขั้นตอนที่ 1: สร้างรหัสลูกค้า
ใช้ API สำหรับการลงทะเบียนข้อมูลประจำตัวเพื่อสร้างรหัสลูกค้า ซึ่งนี่เป็น API ส่วนตัวที่อยู่ในส่วนเนื้อหา API ด้านล่างของหน้า ภาพรวมโครงการ API
ขั้นตอนที่ 2: ร้องขอโทเค็นการเข้าถึง OAuth
จำเป็นต้องใช้โทเค็นการเข้าถึง OAuth ในการทำรายการ API แต่ละรายการ โทเค็นมีอายุการใช้งานเพียง 1 ชั่วโมง ดังนั้น คุณจำเป็นต้องเขียนรหัสด้วยโปรแกรมสำหรับแอปพลิเคชันของคุณเพื่อรีเฟรชโทเค็นก่อนที่เซสชันจะหมดอายุ หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่ เอกสารการให้สิทธิ์อนุญาต API เมื่อดูโค้ดตัวอย่าง ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือก "ตัวแทนจำหน่าย" จากเมนูตัวเลือกตัวอย่าง
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบเอกสาร API
คลิกที่เอกสารของ API แต่ละตัวเพื่ออ่านบริบททางธุรกิจและทำความเข้าใจวิธีใช้ API เข้าสู่ระบบเพื่อดาวน์โหลดคอลเล็กชัน JSON API โดยกดที่ปุ่มด้านบนสุดของหน้าเอกสาร คุณยังสามารถตรวจสอบคำขอตัวอย่างสำหรับปลายทางที่ตรงกับการผสานรวมที่คุณต้องการได้อีกด้วย
ขั้นตอนที่ 4: ใช้แซนด์บ็อกซ์เพื่อทดสอบตัวอย่างการทำรายการ
คลิกที่ปลายทางที่ต้องการตรงการนำทางด้านซ้ายเพื่อไปยังแซนด์บ็อกซ์นั้นๆ ระบุคำขอตัวอย่างที่ตรงกับกรณีการใช้งานของคุณ จากนั้นใช้ข้อมูลประจำตัวสำหรับใช้งานจริงและ URL ทดสอบของ FedEx เพื่อดำเนินการเรียกใช้ไปยังปลายทางตามที่ระบุไว้ในคำขอตัวอย่าง ตรวจสอบว่าการตอบกลับการเรียกใช้ API ที่ได้รับนั้นตรงกับตัวอย่างที่แสดงในเอกสาร เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์การทดสอบได้ใน คู่มือการจำลองเสมือนระบบแซนด์บ็อกซ์
ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบโซลูชันแต่ละรายการ
หลังจากทำการทดสอบโซลูชันของคุณสมบูรณ์แล้ว ให้ส่งกรณีการทดสอบไปยังทีมตรวจสอบยืนยันเพื่อตรวจสอบโซลูชันแต่ละรายการ FedEx จะตรวจสอบทุกอย่างที่ส่งมาอย่างถี่ถ้วนและอัปเดตให้คุณทราบเมื่อการตรวจสอบยืนยันของคุณได้รับการอนุมัติ
การทดสอบกับเว็บฮุค
หากองค์กรของคุณมีสิทธิ์ในการเข้าถึงเว็บฮุค การทดสอบสามารถช่วยให้คุณเข้าใจได้ดีขึ้นว่า URL ที่คุณสร้างนั้นถูกต้องหรือไม่ และช่วยให้ FedEx สามารถระบุ URL ของคุณและสร้างการเชื่อมต่อกับ URL ของคุณเพื่อส่งข้อมูลได้ การทดสอบยังสามารถระบุตัวอย่างข้อมูลการทดสอบที่สามารถช่วยคุณตรวจสอบและยืนยันว่าคุณสามารถประมวลผลข้อมูลการติดตามที่ให้ไว้ในแอปพลิเคชันของคุณได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม การทดสอบไม่ใช่การรับรอง URL ของคุณ ไปที่ เอกสารเว็บฮุค ของเราเพื่อเรียนรู้วิธีทดสอบ URL ของเว็บฮุค
จากนั้น FedEx จะย้ายโครงการของคุณไปสู่การใช้งานจริง ไปที่ หน้าภาพรวมโครงการ และเปิดแท็บ รหัสสำหรับใช้งานจริง คลิกที่ลิงก์ สร้างรหัสลับ ในคอลัมน์ รหัสลับ
ขณะนี้คุณสามารถทดสอบการใช้งานของคุณอีกครั้งในสภาพแวดล้อมการใช้งานจริงโดยใช้ข้อมูลตัวอย่าง
ให้สร้างองค์กร หากยังไม่มีองค์กรสำหรับบริษัทของคุณ หรือเข้าร่วมองค์กรที่มีอยู่แล้วของบริษัท
สร้างองค์กรใหม่
ในแถบนำทาง ให้คลิก “สร้าง” หรือเข้าร่วมองค์กร
หมายเหตุ: ในฐานะผู้สร้าง ระบบจะกำหนดให้คุณเป็นผู้ดูแลระบบองค์กรโดยอัตโนมัติ
ผู้ดูแลระบบสามารถ:
เชิญผู้ใช้เข้าร่วม
กำหนดบทบาทผู้ใช้ (เช่น ผู้สนับสนุนหรือผู้ชม) และโครงการ
จัดการบัญชีการจัดส่ง
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทเหล่านี้ได้ในคู่มือการดูแลระบบองค์กรของเรา
สำหรับประเภทบริษัท ให้เลือก “ขายหรือมอบโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ใช้เทคโนโลยี FedEx และเป็นผู้ให้บริการ FedEx Integrator ที่ผ่านการตรวจสอบ”
ระบุชื่อบริษัท, URL เว็บไซต์ และชื่อองค์กรเฉพาะของคุณ โดยชื่อองค์กรอาจตรงกับชื่อบริษัทของคุณ หรือสื่อถึงกลุ่มเฉพาะ (แผนก ส่วนงาน ภูมิภาค ตำแหน่งที่ตั้ง) ข้อมูลนี้จำเป็นต่อการตรวจสอบคำขอของคุณ
หมายเหตุ: เลือกชื่อองค์กรที่ผู้ใช้คนอื่นๆ ทั้งหมดจะจดจำได้ (เช่น ชื่อบริษัท แผนก ภูมิภาค ตำแหน่งที่ตั้ง)
ระบุตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทและสถานที่วางขายหรือจัดจำหน่ายโซลูชันซอฟต์แวร์ของคุณ
เพิ่มบัญชีการเรียกเก็บเงินและตรวจสอบยืนยันบัญชีการเรียกเก็บเงิน
หมายเหตุ: ในฐานะผู้ให้บริการด้านการจัดส่งและโลจิสติกส์ในโปรแกรม FedEx Integrator คุณต้องใช้หมายเลขบัญชีของคุณเอง คุณไม่สามารถใช้บัญชี FedEx ของลูกค้าได้
ระบุหมายเลขบัญชี FedEx ของคุณ หากคุณยังไม่มีบัญชี FedEx เปิดบัญชีใหม่ที่ fedex.com หรือติดต่อตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าของ FedEx
ระบุชื่อย่อของบัญชีและที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงินที่เชื่อมโยงกับบัญชี แล้วเลือก “ถัดไป”
หมายเหตุ: ที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงินต้องตรงกับข้อมูลที่เราบันทึกไว้สำหรับบัญชีนี้ ซึ่งจะเป็นบัญชีการเรียกเก็บเงินเริ่มต้นสำหรับองค์กรของคุณ
เพื่อให้การสร้างองค์กรของคุณเสร็จสิ้น คุณต้องตรวจสอบยืนยันบัญชีของคุณ เลือกตัวเลือกการตรวจสอบยืนยัน (โทรศัพท์ใช้ได้เฉพาะกับผู้ให้บริการแบบครบวงจรในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น อีเมล และข้อความ) แล้วเลือก “ถัดไป”
เมื่อได้รับแล้ว ให้ป้อนรหัสตรวจสอบยืนยันและเลือก “ส่ง”
ยอมรับข้อกำหนด
อ่านข้อตกลง FedEx Integrator และคู่มือโปรแกรม ทำเครื่องหมายถูกที่ช่องเพื่อยืนยันว่าคุณยอมรับข้อกำหนด จากนั้นเลือก “ยอมรับ”
หน้าจอยืนยันจะปรากฏขึ้น คลิก “จัดการองค์กร” เพื่อแก้ไขรายละเอียด หากจำเป็น
เชิญผู้ใช้
หมายเหตุ: เฉพาะผู้ดูแลระบบเท่านั้นที่สามารถเชิญผู้ใช้ได้
เลือก “จัดการองค์กร” จากเมนูนำทางด้านซ้ายมือ
ไปที่แท็บผู้ใช้ แล้วเลือก “เพิ่มผู้ใช้”
กรอกแบบฟอร์มและกำหนดบทบาทที่เหมาะสมให้กับผู้ใช้ใหม่ ได้แก่ ผู้ชม ผู้สนับสนุน หรือผู้ดูแลระบบ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทผู้ใช้ได้ในคู่มือการดูแลระบบองค์กร
กำหนดผู้ใช้ให้กับโครงการ (ถ้ามี) ภายใต้เมนูดร็อปดาวน์ของโครงการ
ระบุที่อยู่อีเมลของผู้ใช้แต่ละราย จากนั้นเลือก “เชิญ”
เข้าร่วมองค์กรที่มีอยู่
ขอคำเชิญ: ขอให้ผู้ดูแลระบบองค์กรส่งคำเชิญถึงคุณ คุณมีเวลา 24 ชั่วโมงในการตอบรับก่อนที่คำเชิญจะหมดอายุ หากจำเป็น ขอให้ผู้ดูแลระบบส่งคำเชิญอีกครั้ง
ตอบรับคำเชิญ: เข้าสู่ระบบด้วย ID ผู้ใช้และรหัสผ่านที่มีอยู่แล้วของคุณ หาก ID ของคุณเชื่อมโยงกับองค์กรอื่นอยู่แล้ว คุณต้องสร้างใหม่
สร้างโครงการ API
ไปที่หน้าโครงการของฉัน แล้วเลือก สร้างโครงการ
กรอกข้อมูลในช่องชื่อโครงการ รูปแบบชื่อที่แนะนำคือ “Projectname_applicationname” เลือก ถัดไป เมื่อเสร็จแล้ว
เลือกผลิตภัณฑ์ API และการติดตามสถานะแบบรวมระบบขั้นสูงสำหรับโครงการของคุณ
หมายเหตุ: ผลิตภัณฑ์การติดตามสถานะแบบรวมระบบขั้นสูงมีให้บริการสำหรับผู้ให้บริการ FedEx Integrator ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
หมายเหตุ: หากคุณเลือกผลิตภัณฑ์แบบชำระเงินใดๆ ระบบจะขอให้คุณกำหนดบัญชีการเรียกเก็บเงินให้กับโครงการ และยอมรับเงื่อนไขที่จำเป็น
กำหนดการเรียกเก็บเงินและยอมรับเงื่อนไข
กำหนดบัญชีการเรียกเก็บเงินจากรายชื่อบัญชีที่เพิ่มในองค์กร ขั้นตอนนี้จำเป็นต่อเมื่อคุณเลือกผลิตภัณฑ์แบบชำระเงินก่อนหน้านี้เท่านั้น
ยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์
ยืนยันรายละเอียด
ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่เลือก ยืนยันบัญชีการเรียกเก็บเงินที่ให้ไว้
อ่านและยอมรับข้อตกลงการอนุญาตให้ใช้งาน FedEx Developer Portal
คลิก สร้าง เพื่อสร้างโครงการของคุณ และดูข้อมูลประจำตัวสำหรับทดสอบ
กำหนดค่าการติดตามสถานะแบบรวมระบบขั้นสูงในโครงการ
ข้อกำหนดเบื้องต้น
สร้าง URL การเรียกกลับที่ถูกต้องในแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มปลายทางของคุณ โดยที่ URL แอปพลิเคชัน/แพลตฟอร์มของคุณ:
ต้องใช้ HTTPS เพื่อการรักษาความปลอดภัย
ต้องไม่มีที่อยู่ IP RFC1918, โดเมนย่อยของ fedex.com หรือที่อยู่ IP โดยตรง (เช่น 127.0.0.1)
สร้างโทเค็นรักษาความปลอดภัย
ต้องมีความยาว 26–100 ตัวอักษร และประกอบด้วย
- อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ 1 ตัว
- อักษรตัวพิมพ์เล็ก 1 ตัว
- ตัวเลข 1 ตัว
เช่น: Y1F6OiVUQW2JPSElmRE9U0IY5
กำหนดค่าการติดตามสถานะแบบรวมระบบขั้นสูง
เลือกการติดตามสถานะแบบรวมระบบขั้นสูง แล้วเลือกคุณสมบัติ เช่น หลักฐานการส่งมอบ การจัดส่งโดยประมาณ กิจกรรมการติดตาม และตัวกรองที่เกี่ยวกับกิจกรรม
ป้อน URL ปลายทางและโทเค็นรักษาความปลอดภัยของคุณ
ระบุอีเมลสำหรับการอัปเดตการติดตามสถานะแบบรวมระบบขั้นสูงและการแจ้งเตือนการหยุดทำงาน
ยืนยันรายละเอียด
อ่านและยอมรับข้อตกลงการอนุญาตให้ใช้งาน FedEx Developer Portal และคำสั่งการกำหนดราคา
เลือก สร้าง เพื่อทำการตั้งค่าให้เสร็จสิ้น
หมายเหตุ: อาจมีขั้นตอนเพิ่มเติมที่ต้องดำเนินการตามประเภทการสมัครรับข้อมูลของคุณ หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่เอกสารประกอบ
เรียกดูข้อมูลประจำตัวสำหรับทดสอบและเริ่มการทดสอบ
ทบทวนเอกสาร API
- อ่านเอกสาร API เพื่อทำความเข้าใจ API ต่างๆ ที่เรามีให้บริการ พร้อมกับบริบททางธุรกิจและกระบวนการรวมระบบ
- ดาวน์โหลด JSON Schema จากหน้าเอกสารประกอบของ API ที่เกี่ยวข้อง
- ทบทวนคำขอตัวอย่างสำหรับปลายทางที่ต้องการ
รับข้อมูลประจำตัวสำหรับทดสอบ
ในหน้าภาพรวมโครงการ ให้ไปที่แท็บรหัส API รหัส API และรหัสลับของคุณจะแสดงอยู่ภายใต้ส่วนหัวรหัสทดสอบ
ทบทวนเอกสาร API
- คุณต้องใช้โทเค็น OAuth สำหรับการทำรายการ API ทั้งหมด และจะหมดอายุในหนึ่งชั่วโมง
- แอปพลิเคชันของคุณต้องรีเฟรชโทเค็น ก่อนที่โทเค็นจะหมดอายุ
- หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่เอกสาร API Authorization
ทดสอบการทำรายการ API ในแซนด์บ็อกซ์
- ไปที่ API ที่เกี่ยวข้องในแคตตาล็อก API และเลือกเอกสารประกอบ
- เลือกปลายทาง API ที่ต้องการในเมนูด้านซ้าย
- ใช้คำขอตัวอย่างที่ตรงกับกรณีการใช้งานของคุณ
- ดำเนินการเรียกใช้ API โดยใช้ข้อมูลประจำตัวสำหรับทดสอบและ URL ทดสอบของ FedEx
- ตรวจสอบการตอบกลับกับเอกสารประกอบ
- อ่านคู่มือการจำลองเสมือนระบบแซนด์บ็อกซ์สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
ทดสอบการติดตามสถานะแบบรวมระบบขั้นสูง
การทดสอบการติดตามสถานะแบบรวมระบบขั้นสูงจะตรวจสอบรูปแบบ URL ของคุณ และช่วยสร้างการเชื่อมต่อระหว่าง FedEx กับแอปพลิเคชันของคุณ
การทดสอบนี้ให้ตัวอย่างข้อมูลการทดสอบสำหรับการประมวลผลข้อมูลการติดตาม
หมายเหตุ: การทดสอบไม่ใช่การรับรอง URL ของคุณ
เรียนรู้เพิ่มเติมได้ในเอกสารการติดตามสถานะแบบรวมระบบขั้นสูง
จำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพื่อย้าย API ไปยังการใช้งานจริง ระดับการตรวจสอบจะแตกต่างกันไปตาม API
พัฒนาและทดสอบ FedEx API
- ใช้ข้อมูลประจำตัวสำหรับทดสอบ (รหัส API และรหัสลับ) จากหน้าภาพรวมโครงการ
- ระบุกรณีทดสอบสำหรับภูมิภาค/เขตปกครองที่คุณวางแผนจะใช้งานโซลูชันของคุณ (ดูกรณีทดสอบพื้นฐานสำหรับผู้ให้บริการแบบครบวงจร)
- ก่อนดำเนินการกรณีทดสอบ โปรดทำรายการลงทะเบียนให้เสร็จสิ้นโดยใช้หมายเลขบัญชีทดสอบที่ให้ไว้
- ดำเนินการกรณีทดสอบที่จำเป็นทั้งหมด
ไปที่หน้าภาพรวมโครงการของคุณ
เลือก ขอรหัสสำหรับใช้งานจริง FedEx จะตอบรับคำขอรหัสสำหรับใช้งานจริง และคุณจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีการอนุมัติแล้ว
กรอก PIW และใบปะหน้าการตรวจสอบความถูกต้อง
กรอกข้อมูลในตารางข้อมูลผลิตภัณฑ์ (PIW) และใบปะหน้าการตรวจสอบความถูกต้องผู้ให้บริการแบบครบวงจร พร้อมรายละเอียดข้อมูลติดต่อและบริการ FedEx ที่คุณต้องการ
ส่งเอกสารที่จำเป็น
รวบรวมเอกสารและบีบอัดเป็นไฟล์ .zip เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของผู้ให้บริการอีเมล ส่งไปที่ validationmtp@fedex.com
เอกสารที่ต้องส่ง
- PIW ที่กรอกเสร็จสิ้น (PDF)
- ใบปะหน้าการตรวจสอบความถูกต้องที่กรอกเสร็จสิ้น (PDF)
ภาพประกอบ (PDF):
โซลูชันสำหรับลูกค้าที่แสดงบริการของ FedEx/การจัดการพิเศษ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
ข้อตกลง EULA
ขั้นตอนการลงทะเบียนลูกค้าปลายทาง
- รายการลงทะเบียนลูกค้าปลายทางที่มีการยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (JSON)
- ฉลากการจัดส่งที่สแกนสำหรับกรณีทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด (PDF/PNG)
- รายการการจัดส่งที่มีฉลากสามรูปแบบ ได้แก่ PDF, PNG และ ZPL (JSON) (สำหรับ API การจัดส่งและอัตราค่าบริการที่เกี่ยวข้อง)
แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้า
- ต้องพิมพ์และสแกนฉลากที่ความละเอียดขั้นต่ำ 600 DPI
- ฉลากจากเครื่องพิมพ์ความร้อนต้องตรงกับรุ่นเครื่องพิมพ์ (เช่น ZPLII สำหรับเครื่องพิมพ์ Zebra)
- การจัดส่งของ FedEx International Express® ต้องมีฉลากใบตราส่งสินค้าทางอากาศ (AWB) สำรอง
- การจัดส่งพัสดุแบบหลายชิ้น (MPS) ต้องประกอบด้วยหนึ่งฉลากต่อหนึ่งบรรจุภัณฑ์
การประเมินฉลาก
ทีมตรวจสอบจะอนุมัติหรือปฏิเสธข้อมูลที่คุณส่งมา
- หากถูกปฏิเสธ ให้ทำการแก้ไขและส่งอีกครั้งตามข้อเสนอแนะ
- หากได้รับการอนุมัติ คุณจะได้รับอีเมลยืนยันการตรวจสอบสำเร็จ เมื่อได้รับอีเมลแล้ว ข้อมูลประจำตัวสำหรับใช้งานจริงของคุณจะได้รับการอนุมัติให้ทำรายการฉลากการจัดส่ง
ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังผ่านการตรวจสอบ
ทบทวนและดำเนินการตามข้อกำหนดหลังผ่านการตรวจสอบ ตามความจำเป็น
เมื่อได้รับแจ้งว่าอนุมัติรหัสสำหรับใช้งานจริงของคุณแล้ว ให้เรียกดูรหัสสำหรับใช้งานจริงของคุณจากแท็บภาพรวมโครงการ
- คัดลอกและจัดเก็บรหัส API สำหรับใช้งานจริงและรหัสลับของคุณไว้ในที่ปลอดภัย
- รหัสลับจะแสดงเพียงครั้งเดียว หากสูญหาย คุณต้องสร้างใหม่

